Warning: Undefined array key "action" in /var/www/wp-content/themes/kicker-child/functions.php on line 2
เด็กแรกเกิดถึง 3 ขวบ | motherandcare - Part 5
Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

เด็กแรกเกิดถึง 3 ขวบ

โคลิค รู้ทันอาการลูกร้องไห้บ่อย พ่อแม่ต้องสังเกต

โคลิค พบมากในเด็กทารก ซึ่งเป็นสิ่งที่พ่อแม่คิดว่าเด็กทารกเป็นแบบนี้แล้วปกติ เพราะบ้านอื่นก็เป็น แต่ถ้ารู้ไหมว่าสิ่งที่ลูกกำลังเป็นอยู่ในทุก ๆ วัน ทุก ๆ คืนนี้ เป็นสัญญาณเตือนของอาการโคลิค

Read more

แพ้นมวัว ควรเสริมอาหารอะไรทดแทนให้กับลูกน้อยดี ?

แพ้นมวัว อาหารยอดฮิตอันดับ 1 ในหมู่ของเด็กน้อย ที่ทำเอาพ่อแม่หลายคนเครียดจนกุมขมับไปเลยว่าถ้าลูกไม่กินนมวัวแล้วจะให้กินอะไรหล่ะที่นี้ เพราะอาหารหลายอย่างนั้นแทบจะมีส่วนผสมของนมวัวปนไปหมดซะทุกอย่าง

Read more

ดูดนิ้ว ปัญหายอดฮิตในหมู่เด็ก ทำยังไงให้ลูกเลิกดูดนิ้ว ..?

ดูดนิ้ว พฤติกรรมปกติของเด็กน้อยหลายคนยิ่งในช่วงอายุประมาณ 1 ขวบขึ้นไปแล้วด้วย ยิ่งมักพบเห็นกันบ่อยมาก ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่กลับเป็นปัญหาหนักใจของพ่อแม่เป็นอย่างมาก

Read more

ฝันร้าย ในทารกเกิดขึ้นได้ยังไง ..? พร้อมบอกวิธี กล่อมลูกนอน

ฝันร้าย ในทารกมีด้วยหรอ ทั้งที่ ๆ เพิ่งเกิดมาจะฝันถึงอะไรได้หล่ะ ? เราอยากบอกเลยว่าทุกคนล้วนมีความฝันและเคยฝันมาทั้งนั้นไม่ว่าจะร้ายหรือดี ร่วมไปถึงลูกน้อยของเราด้วยถึงแม้ยังเกิดมาใช้ชีวิตบนโลกใบนี้เพียงไม่ 1 ปีเขาก็มีความฝัน

Read more

การนอนของทารก นอนท่าไหนให้ปลอดภัย พ่อแม่หายห่วง

การนอนของทารก เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพราะส่วนใหญ่แล้วทารกมักใช้เวลาไปกับการนอนมากกว่าผู้ใหญ่หลายเท่าเพื่อพัฒนาสมองและร่างกายให้สมบูรณ์

Read more

เด็กทารก 6 เรื่องที่พ่อแม่ควรรู้ไว้ เมื่อมีลูก

เด็กทารก เรื่องเด็ก ๆ ที่ไม่เด็กเลยสำหรับพ่อแม่ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่มือใหม่หรือพ่อแม่ลูกสองแล้วก็ตาม เพราะเด็กแต่ละคนนั้นเกิดมามีความแตกต่าง ทั้งนิสัย ร่างกาย การกิน การเดิน การนอน

Read more

ของเล่นตามช่วงวัย สำหรับเด็กอายุ 1-3 ขวบ

การเล่นคือช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้ที่สำคัญที่สุดของเด็กทุกคน การเลือกของเล่นให้เหมาะสมกับลูกน้อยแต่ละช่วงวัยจึงเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจไม่แพ้เรื่องอื่น ซึ่งนอกจากจะคำนึงถึงเรื่องการส่งเสริมพัฒนาการแล้ว ยังต้องพิจารณาเรื่องความปลอดภัยเป็นปัจจัยหลักด้วย โดยของเล่นเด็กควรผลิตจากวัสดุเกรดดี ปลอดสารพิษ ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ทำความสะอาดง่าย หากมีกลไกไฟฟ้าต้องมั่นใจว่าผลิตจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน และมีความเหมาะสมกับเด็กแต่ละคน เช่น ถ้าเด็กเป็นโรคภูมิแพ้ก็ควรหลีกเลี่ยงตุ๊กตาผ้าที่สะสมฝุ่น หรือถ้าเป็นเด็กวัยกำลังชอบส่งของเข้าปาก ก็ควรหลีกเลี่ยงของเล่นที่มีส่วนประกอบชิ้นเล็กๆ ซึ่งอาจหลุดลงไปในลำคอได้  ของเล่นสำหรับเด็กอายุ 1 ขวบ เด็กส่วนใหญ่จะเริ่มหัดเดินช่วงอายุ 12-15 เดือน และเริ่มขีดเขียนเป็นเส้นบนกระดาษได้แล้ว อีกทั้งยังสามารถทำตามคำสั่งง่ายๆ และตอบชื่อสิ่งของใกล้ตัวได้ถูกต้อง ของเล่นที่เหมาะกับเด็กวัยนี้จึงควรเป็นของเล่นที่ช่วยเสริมทักษะด้านการเข้าใจบทบาทสมมติต่างๆ รวมถึงของเล่นที่ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กและสติปัญญา ตัวอย่างเช่น  หนังสือบอร์ดที่ทำจากกระดาษอัดแข็ง แข็งแรงทนทาน เลือกเล่มที่มีภาพประกอบสีสันสดใสหรือภาพถ่ายวัตถุจริง เพื่อให้ลูกน้อยได้เรียนรู้เรื่องสิ่งของต่างๆ รอบตัว สมุดระบายสี แนะนำให้ใช้คู่กับสีเทียนแท่งใหญ่ จะมีสีสันดึงดูดความสนใจและปลอดภัยกว่าสีไม้ที่มีปลายแหลม ของเล่นที่จำลองบทบาทสมมติ เช่น โทรศัพท์ปลอม ตุ๊กตาเด็กพร้อมอุปกรณ์แต่งตัว หุ่นเชิด ยานพาหนะจำลอง  ของเล่นที่ช่วยฝึกกล้ามเนื้อมัดใหญ่และมัดเล็ก เช่น เพ็กบอร์ดขนาดใหญ่ ลูกบอลขนาดใหญ่และเล็ก บล็อกไม้ ของเล่นที่ฝึกการใช้มือหยิบจับในอิริยาบถต่างๆ  ของเล่นสำหรับเด็กอายุ 2 ขวบ เด็กวัยนี้สามารถควบคุมกล้ามเนื้อมือได้ดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นวัยที่กำลังเรียนรู้ทักษะด้านภาษาอย่างรวดเร็ว ชอบเล่นบทบาทสมมติ เช่น ทำอาหาร รักษาคนป่วย รวมถึงชอบทดสอบสมรรถภาพทางร่างกายด้วยการปีนป่าย กระโดดจากที่สูง เกลือกกลิ้ง ห้อยโหน เรียกว่าเป็นวัยที่กำลังซุกซนเอาเรื่องทีเดียว จึงต้องระวังเรื่องอุบัติเหตุมากเป็นพิเศษ…

Read more

5 วิธีง่ายๆ ทำให้ลูกน้อยหัวเราะ

เสียงหัวเราะคือความมหัศจรรย์ของลูกน้อยที่ทำให้คนรอบตัวพลอยอารมณ์ดีไปด้วย เวลาเห็นเขายิ้มแย้มและส่งเสียงอย่างมีความสุข คุณพ่อคุณแม่จะชื่นใจจนหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลย  เพราะความร่าเริงแจ่มใสเหล่านั้นคือการแสดงออกถึงพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดี ถ้าอยากให้ลูกน้อยหัวเราะบ่อยๆ ลองทำตามวิธีเหล่านี้ดู 1. เล่นจ๊ะเอ๋ วิธีคลาสสิกที่สุดที่ทุกบ้านต้องเคยใช้เล่นกับเจ้าตัวน้อยคือการเอามือปิดหน้าแล้วเปิดออกพร้อมกับส่งเสียง “จ๊ะเอ๋” เด็กส่วนใหญ่ตอบสนองกับการเล่นนี้ได้ดีมากทั้งเด็กเล็กและเด็กโต ถ้าเป็นเด็กวัยประมาณ 1 ขวบที่เริ่มเดินได้แล้ว เขาจะยิ่งสนุกกับการเข้าไปแอบซ่อนในผ้าม่านหรือผ้าห่ม แล้วโผล่หน้าออกมาให้คุณพ่อคุณแม่ประหลาดใจ 2. แปลงร่างเป็นสัตว์ประหลาด บางครั้งคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องเป็นทุกอย่างให้กับลูก ไม่เว้นแม้กระทั่งสัตว์ประหลาด เด็กๆ จะชอบมากที่ได้เห็นผู้ใหญ่ทำหน้าตาท่าทางตลกๆ และส่งเสียงประหลาดดึงดูดความสนใจ วิธีนี้ไม่ใช่แค่ลูกน้อยเท่านั้นที่จะหัวเราะอารมณ์ดี บางทีเราทำเองก็ยังอดขำตัวเองไม่ได้  3. จั๊กจี้เบาๆ การจั๊กจี้เบาๆ ไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายเป็นวิธีหนึ่งที่กระตุ้นให้เด็กหัวเราะอย่างได้ผล หรือจะใช้การกระตุ้นสัมผัสรูปแบบอื่นๆ เช่น เป่าลมให้เกิดเสียงตรงพุงเล็กๆ ของเจ้าตัวน้อย ถูจมูกของคุณเข้ากับจมูกของเขาเบาๆ แบบนี้ก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด 4. พาลูกเล่นหัดบิน หากลูกน้อยของคุณคอแข็งพอที่จะตั้งได้แล้ว ลองจับเขามานั่งบนหัวเข่าและขยับขาขึ้นลงช้าๆ อย่างระมัดระวัง พร้อมกับส่งเสียงเชียร์ให้เจ้าตัวเล็กรู้สึกเหมือนกำลังหัดบิน รับรองว่าเขาจะหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างแน่นอน  5. ใช้เสียงเป็นตัวช่วย ของเล่นที่มีเสียงกรุ๊งกริ๊งหรือยางบีบต่างๆ ดึงดูดความสนใจจากเด็กได้มากเป็นพิเศษ หรือจะนำของใกล้ตัวมาประยุกต์ใช้เล่นกับลูกก็ประหยัดและได้ผลดีไม่แพ้กัน เช่น เสียงฉีกกระดาษ เสียงขยำถุงพลาสติก เด็กบางคนอาจตอบสนองกับเสียงเหล่านี้มากกว่าเสียงจากของเล่นเสียอีก เสียงหัวเราะเป็นยาวิเศษและเป็นสิ่งที่ส่งต่อกันได้ หากคนใกล้ชิดที่เลี้ยงดูเขาอารมณ์ดี เด็กทารกจะรับรู้ได้ถึงความรู้สึกนั้นและอารมณ์ดีตามไปด้วย นอกจากนี้ เด็กเล็กๆ ยังมักมีความสามารถในการสื่อสารกันเองหรือสื่อสารกับสัตว์เลี้ยงในแบบที่ผู้ใหญ่อย่างเราๆ คาดไม่ถึง บางทีปล่อยให้พวกเขาเล่นกันเพลินๆ…

Read more

ทำอย่างไรให้ลูกไม่เลือกกิน

อาหารการกินของลูกน้อยเป็นเรื่องใหญ่ที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนใส่ใจมากเป็นพิเศษ เพราะโภชนาการที่ดีคือจุดเริ่มต้นของสุขภาพที่แข็งแรง ซึ่งจะนำไปสู่การมีพัฒนาการต่างๆ เหมาะสมตามวัยทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสมอง โดยปัจจุบันองค์การอนามัยโลกแนะนำว่าทารกควรกินนมแม่อย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรก หลังจากนั้นจึงค่อยเสริมอาหารอื่นๆ ตอนที่ระบบย่อยของเขาพัฒนาจนมีความพร้อมแล้ว หากป้อนอาหารเสริมเร็วเกินไป อาจทำให้เด็กมีโอกาสแพ้อาหารได้ง่าย โดยช่วงที่เริ่มให้นมแม่ควบคู่ไปกับอาหารเสริม เป็นช่วงเวลาสำคัญในการปลูกฝังให้ลูกน้อยเป็นเด็กกินง่าย หากปลูกฝังกันมาตั้งแต่ต้น หลังจากนั้นอุปสรรคในการป้อนข้าวลูกก็จะน้อยลง หลีกเลี่ยงอาหารรสหวานในช่วงเริ่มต้น ช่วงเดือนแรกที่เริ่มป้อนอาหารเสริม ควรสอนให้เขารู้จักรสชาติของผักก่อน โดยเลือกผักเนื้อเนียนนุ่ม กลิ่นไม่ฉุน เมนูที่กุมารแพทย์แนะนำคือข้าวกล้องหุงรวมกับถั่วและค่อยๆ เพิ่มผักเข้าไปทีละอย่าง ปั่นให้ละเอียด ปรุงรสด้วยเกลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเพื่อเสริมไอโอดีน เริ่มป้อนจากปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ และค่อยๆ เพิ่มทีละน้อย หากเขาไม่อยากกินก็อย่าเพิ่งบังคับฝืนใจ แต่ให้ทดลองใหม่ในวันถัดไป หลังจากป้อนเมนูผักครบเดือนแล้ว จึงค่อยเสริมผลไม้ในเดือนถัดไป  ฝึกให้ลูกตักอาหารเข้าปากเอง แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาคือความเลอะเทอะ แต่การฝึกให้กินอาหารด้วยตัวเอง จะทำให้ลูกน้อยสนุกและสนใจการกินมากยิ่งขึ้น เมื่อทำได้และได้รับคำชื่นชมจากคุณพ่อคุณแม่ เขาก็จะเกิดความภูมิใจและไม่ต่อต้านการกินอาหาร  ชวนลูกเข้าครัว  เด็กจะเริ่มกินยากมากขึ้นในช่วงอายุ 1-3 ขวบ เพราะเป็นช่วงที่เขาเปลี่ยนจากอาหารบดมาเป็นอาหารที่ต้องเคี้ยวเอง และเข้าสู่วัยที่เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น แต่ข้อดีคือเด็กวัยนี้กำลังสนใจเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัว และทำอะไรหลายๆ อย่างได้ด้วยตัวเอง การชวนเข้าครัวไปทำความรู้จักกับวัตถุดิบ ให้ช่วยเตรียมของในขั้นตอนง่ายๆ และให้เขาออกความเห็นเกี่ยวกับเมนูอาหารบ้าง จะช่วยกระตุ้นให้ลูกน้อยเกิดความรู้สึกอยากกินมากยิ่งขึ้น เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูก เด็กมักมีพฤติกรรมเลียนแบบคนใกล้ตัว คุณพ่อคุณแม่จึงต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ลูก และควรให้เขานั่งกินข้าวร่วมโต๊ะเดียวกับผู้ใหญ่ในครอบครัวเพื่อสร้างบรรยากาศที่ดี ซึ่งเด็กอายุ 1 ขวบขึ้นไปสามารถกินอาหารได้ใกล้เคียงกับผู้ใหญ่แล้ว…

Read more

อันตราย! หากเบบี๋ 6 เดือนแรก ฉีดวัคซีนไม่ครบ!

คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่ยังไม่เคยรู้กันมาก่อนว่า เบบี๋ตัวน้อยที่พึ่งลืมตามาดูโลกได้ไม่กี่วันนั้น ต้องมีการฉีดวัคซีนให้ครบทุกตัว และไปตามนัดหมอทุกครั้ง เพราะในช่วง 6 เดือนแรก ลูกยังไม่มีภูมิคุ้มกันและป่วยง่ายมากๆ ดังนั้น เพื่อเป็นการเสริมเกราะให้ลูกแข็งแรงนอกจากนมแม่แล้วนั้น ไปดูกันว่า มีวัคซีนตัวไหนบ้างที่ลูกต้องโดนฉีด หากฉีดไม่ครบ น่ากลัวแน่นอน! วัคซีนสำหรับทารกพึ่งเกิด ทารกแรกเกิดจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนวัณโรคและตับอักเสบบี (ฉีดภายใน 24 ชม. หลังคลอด) เพราะเป็นโรคที่ติดผ่านกันได้ง่าย ส่วนตับอักเสบบีนั้น จะฉีดป้องกันเนื่องจาก กรณีที่คุณแม่ท่านไหนมีพาหะของเชื้อ ก็อาจจะติดมาสู่ลูกได้นั่นเอง วัคซีนวัย 1 เดือน ฉีดป้องกันโรคตับอักเสบบีเพิ่มอีก 1 เข็ม เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและต้านทานเชื้อโรคที่จะเข้าสู่ลูกน้อย การฉีดวัคซีนในวัย 2 เดือน เด็กๆ จะได้รับการฉีดวัคซีนคอตีบบาดทะยักไอกรน เนื่องจากเป็นเชื้อที่ร้ายแรงมาก ไม่ป้องกันไว้จะถึงขั้นไอจนเสียชีวิตได้เลย อีกตัวจะเป็นการฉีดตับอักเสบบีเพิ่มอีก 1 เข็ม และมีการหยดยาโปลิโอเพิ่มด้วย วัคซีนวัย 4 เดือน จะเหมือนการฉีดวัคซีนในช่วงเดือนที่ 2 นั่นก็คือ ฉีดวัคซีนคอตีบบาดทะยักไอกรนและตับอักเสบบีซ้ำอีก 1…

Read more