Warning: Undefined array key "action" in /var/www/wp-content/themes/kicker-child/functions.php on line 2
พ่อแม่คือต้นแบบของลูก
X

พ่อแม่คือต้นแบบของลูก

[vc_row][vc_column][vc_column_text]‘ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น’ ‘ลูกปูเดินตามแม่ปู’ ‘ย่ำตามรอยเท้าพ่อ’ ข้อความเหล่านี้สะท้อนถึงความสำคัญของพ่อแม่ในการเป็น ต้นแบบหรือแบบอย่างให้ลูก ความสำคัญนี้ได้รับการยอมรับ โดยทั่วไปว่าเป็นข้อเท็จจริง แต่ยังมีข้อสงสัยบางประการ กระบวนการเกิดขึ้นอย่างไร ทำอย่างไรพ่อแม่ถึงจะเป็นต้นแบบ ที่ดีได้ และพ่อแม่ควรเป็นต้นแบบในทางใด นั่นเป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรไตร่ตรองและทำความเข้าใจ

 

มีงานวิจัยเกิดขึ้นมากมายยืนยันว่าพฤติกรรมของพ่อแม่มีผลต่อพฤติกรรมของลูก เช่น เด็กที่เติบโตในบ้านที่พ่อแม่สูบบุหรี่มีแนวโน้มที่จะสูบบุหรี่มากกว่าคนอื่นทั่วไป ลูกที่มีพ่อแม่ใช้สารเสพติดหรือดื่มแอลกอฮอล์ มักจะเสพสารเหล่านี้เมื่อโตขึ้น ผู้ใหญ่ที่มีประวัติถูกทารุณกรรมในวัยเด็กมีแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมทารุณลูกของตนเองได้ พ่อแม่ที่มีความเชื่อมั่นในตนเองต่ำมักมีลูกที่ขาดความมั่นใจในตนเองเด็กที่มาจากครอบครัวแตกแยกมีความเสี่ยงมากกว่าที่จะมีปัญหาความสัมพันธ์กับคู่ของตนเมื่อเป็นผู้ใหญ่

 

ลองมาดูงานวิจัยทางด้านบวกบ้าง พ่อแม่ที่มีความมั่นใจในตนเองสูง มีแนวโน้มที่จะเลี้ยงดูลูกเป็นเด็กที่อารมณ์มั่นคงและเชื่อมั่นในตนเอง พ่อแม่ที่ประสบความสำเร็จในการศึกษา มีแนวโน้มที่ลูกจะประสบความสำเร็จในการศึกษาเหมือนหรือ สูงกว่าตนเอง เด็กที่อยู่ในครอบครัวที่พ่อแม่มีความสุขในชีวิตสมรส มีแนวโน้มที่จะมีความสุขในชีวิตคู่เช่นกันเมื่อเป็นผู้ใหญ่งานวิจัยเหล่านี้ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า พ่อแม่มีอิทธิพลต่อลูก โดยพ่อแม่มีอิทธิพลผ่านหลายกระบวนการ แต่กระบวนการหนึ่ง ซึ่งสำคัญมาก ที่เกิดขึ้นในเด็กคือ การซึมซับหรือการเลียนแบบนั่นเองปัจจุบันมีงานวิจัยทางสมองที่ยืนยัน

 

กระบวนการที่เด็กซึมซับหรือเลียนแบบนี้ จากกลุ่มนักวิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัย Parma ประเทศอิตาลี พบว่าในสมองมีเซลล์สมองอย่างน้อย 2 บริเวณ ในลิงกังที่เรียกว่า เซลล์กระจกเงา (Mirror Neuron) ทำหน้าที่ในการเลียนแบบ เซลล์กระจกเงาเหล่านี้ทำงานทั้งที่เพียงแค่มองเห็นโดยไม่จำเป็นต้องทำท่าทางตาม มีคำอธิบายเซลล์กระจกเงาไว้ว่า ‘Monkey see Monkey do’ นั่นหมายถึง แม้แต่มองเห็นก็เสมือนลงมือทำเอง

 

ในช่วง 10 ปีนี้ มีงานวิจัยเกี่ยวกับเซลล์กระจกเงาในมนุษย์มากมาย ทำให้เราทราบมากขึ้นว่าเซลล์กระจกเงาทำงานเชื่อมโยงกับสมองหลายส่วน ทั้งในส่วนการเคลื่อนไหว อารมณ์ ความเห็นอกเห็นใจ ความคิดเห็น การคาดเดา หรือเข้าใจผู้อื่น จึงไม่แปลกเลยที่เด็กที่เล่นเกมรุนแรงบ่อย ๆ และยาวนานจะมีพฤติกรรมก้าวร้าวมากขึ้น หรือเมื่อดูละครเราจะร้องไห้ตามนางเอกที่ถูกพระเอกเข้าใจผิดเพราะแม่สามีสร้างสถานการณ์ใส่ร้าย หรือแม้กระทั่งเราดูรายการแข่งขันกอล์ฟอย่าง ตั้งใจแล้วก็จะมีทักษะการเล่นกอล์ฟที่ดีขึ้นบ้าง เหตุเหล่านี้เป็นไปได้จริงเพราะมีเซลล์สมองที่เรียกว่าเซลล์กระจกเงาทำงานอยู่ในการเป็นต้นแบบของลูกอย่างมีประสิทธิภาพจากพ่อแม่

 

นั่นหมายถึงการเปิดโอกาสให้เซลล์กระจกเงาทำงานอย่างเต็มที่ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลักคือ ความผูกพันและเวลาที่พ่อแม่ให้กับลูก หากพ่อแม่มีความผูกพันที่ดีกับลูก ลูกจะมีแนวโน้มที่จะศรัทธาและซึมซับแบบอย่างจากพ่อแม่ที่เขารู้สึกผูกพันด้วย และหากพ่อแม่มีเวลากับลูกยิ่งมากเท่าไร ลูกก็จะมีแนวโน้มที่จะซึมซับตัวอย่างดี ๆ เหล่านั้นไม่รู้ตัว แต่ตรงข้ามหากเวลาที่อยู่ด้วยกันมีแต่ความเครียด หรือการต้องดุว่ากัน ลูกก็มีแนวโน้มที่จะซึมซับหรือเลียนแบบพฤติกรรมรุนแรงเหล่านั้นเช่นกัน

 

พ่อแม่เป็นต้นแบบในทางบวกได้หลายอย่าง

 

เป็นต้นแบบทางคุณธรรม โดยการปฏิบัติให้ลูกเห็นว่าพ่อแม่มีความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ แสดงให้ลูกเห็นว่าพ่อแม่รู้จักการแบ่งปัน และเผื่อแผ่แก่คนอื่น หากมีโอกาสทำให้ลูกเห็นว่าพ่อแม่พร้อมที่จะช่วยเหลือผู้อื่น พ่อแม่ควรตระหนักว่าการสอนคุณธรรมจากหนังสือหรือการพร่ำบอกได้ผล น้อยกว่าจากที่ลูกเห็นตัวอย่างในชีวิตจริงคิดออกมาให้ลูกได้ยิน ในบางสถานการณ์พ่อแม่ ไม่สามารถแสดงแบบอย่างได้ แต่การตัดสินใจบางอย่างของพ่อแม่ในทางที่ดีหรือเรื่องสำคัญ ควรให้ลูกได้เรียนรู้บ้าง ลูกสามารถเรียนรู้หรือเลียนแบบจากการที่เขาได้ยินกระบวนการความคิดของพ่อแม่ บางโอกาสพ่อแม่ควรคิดออกมาดัง  ๆ ว่าพ่อแม่มีกระบวนการคิด ตัดสินใจอย่างไร มีการพิจารณาข้อดีข้อเสียของทางเลือกต่าง  ๆ และตัดสินใจลงไปอย่างไร ในอนาคตเมื่อลูกมีประสบการณ์คล้ายคลึงกัน เขาจะสามารถตัดสินใจและลงมือได้ดีเยี่ยงพ่อแม่ของเขา

 

มานะพยายาม เมื่อคุณทำงานหรือสัญญาบางอย่างไว้ แสดงให้ลูกเห็นว่าคุณติดตาม ตั้งใจ และพยายามทำจนเสร็จ แม้บางครั้ง มีอุปสรรคขวากหนาม คุณให้ลูกรับรู้ว่าคุณสามารถฟันฝ่าไปได้ ไม่ย่อท้อ พร้อมทั้งยินดีกับความสำเร็จนั้นยอมรับความผิดและรู้จักขอโทษ คุณแสดงให้ลูกรู้ว่าเป็นปุถุชนทั่วไปที่สามารถทำความผิดได้ ที่สำคัญคือยอมรับความผิดนั้นและรู้จักขอโทษ พร้อมที่จะแก้ไขสิ่งผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งความ ผิดพลาดที่มีต่อลูก คุณสามารถพูดขอโทษลูกได้ นอกจากการเป็นตัวอย่างที่ดีแล้ว เขาจะรับรู้ว่าเขาเป็นบุคคลสำคัญที่พ่อแม่ใส่ใจ อีกด้วย

 

เรียนรู้รอบด้าน พ่อแม่สามารถเป็นแบบอย่างของการรู้จักค้นคว้าหาความรู้ บางครั้งอาจค้นคว้ากับลูก บางครั้งอาจเป็นงานหรือความสนใจของตนเอง ในวัยกลางคน คุณยังสามารถเรียนรู้ สิ่งใหม่ ๆ ได้ เช่น เรียนภาษาที่สาม เรียนดนตรี เล่นกีฬา เรียนทำอาหาร สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวอย่างให้ลูกรับรู้ว่า พ่อแม่เป็นแบบอย่างของการเรียนรู้ที่ไม่จบสิ้น พ่อแม่สามารถมีบทบาทได้หลายอย่างรอบด้าน เขาก็จะดำเนินตามเช่นกันแสดงความมั่นใจในตนเอง ไม่ว่าจะทำอะไรพ่อแม่แสดงให้ลูกเห็นว่ามั่นใจในสิ่งที่ทำ รวมทั้งภูมิใจกับการได้ทำและผลสำเร็จด้วย

 

พ่อแม่สามารถเป็นต้นแบบให้ลูกได้แน่นอน มีต้นแบบอีกหลายประการที่ไม่ได้กล่าวในที่นี้ แต่หากเป็นในทิศทางบวก ลงมือทำเลยนะครับ เพื่อลูกจะได้เติบโตขึ้นโดยมีคุณลักษณะดี ๆ ติดตัวอย่างถาวร และคุณเองก็จะรู้สึกภูมิใจที่ถ่ายทอดมรดกดี ๆ ให้กับลูกได้ด้วยตัวเอง

 

บทความโดย : นพ.จอม ชุมช่วย  จากคอลัมน์ Dotor’s note นิตยสาร Mother&Care[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row]

Categories: Family lifestyle
motherandcare:
Related Post