Warning: Undefined array key "action" in /var/www/wp-content/themes/kicker-child/functions.php on line 2
ช่วยให้ลูกมีความคิดเชิงบวก - Part 55
Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

Blog Band

ช่วยให้ลูกมีความคิดเชิงบวก

พ่อแม่ทุกคนย่อมปรารถนาให้ลูกมีความสุขและประสบความสำเร็จด้วยกันทั้งสิ้น ปัจจัยสำคัญอันหนึ่งในหลาย ๆ ปัจจัยก็คือการส่งเสริมให้ลูกมีความคิดเชิงบวก ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันให้เกิดอีกหลายคุณลักษณะในตัวเด็ก ทั้งความมั่นใจในตัวเอง ความรู้สึกไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค สุขภาพจิตที่ดี รวมทั้งมนุษยสัมพันธ์และความมีเสน่ห์ในตนเอง แล้วพ่อแม่จะช่วยลูกได้อย่างไร ใช้ภาษาเชิงบวก บ่อยครั้งที่พ่อแม่ชินกับการใช้ คำสั่งห้าม หรือการพูดตำหนิ ต่อว่าลูก นั่นถือเป็นการตอกย้ำ กับความคิดหรือพฤติกรรมเชิงลบ เช่น “ทำไมถึงสะเพร่าอย่างนี้” “อย่าเกเร และดื้อกับคุณตาคุณยายนะลูก” “อย่ากระโดดเป็นลิงเป็นค่างอย่างนี้” “ทำไมถึงขี้เกียจกันจริง” ตัวอย่างเหล่านี้มักเกิดขึ้นจากความผิดหวังหรือไม่พอใจของพ่อแม่ แต่การพูดเชิงลบเช่นนั้น นอกจากโอกาสที่ลูกจะเชื่อฟังหรือ ทำตามน้อยแล้ว ยังอาจส่งผลในเชิงลบต่อตัวลูกคือลูกเชื่อว่าตนเองเป็นเช่นนั้นจริง ๆ เพราะพ่อแม่ ที่เขารัก บอกเขาหรือตอกย้ำเสมอว่าเขามีลักษณะเช่นนั้น…

เลือกโต๊ะให้ลูกนั่งอย่างมีสุขภาพดี

โต๊ะนั่งก็สำคัญค่ะ เลือกโต๊ะผิดชีวิตเปลี่ยน แหม ๆ ๆ เว่อไปนิดใช่มั้ยคะ ไม่ได้พูดเกินจริงเลยค่ะ โต๊ะเขียนหนังสือที่ไม่เหมาะกับสรีระของลูกอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพระยะยาว เช่น สายตาสั้น หลังค่อม ปวดหลัง ฯลฯ มาฟังรีวิวและคำแนะนำในการเลือกโต๊ะของแม่แอร์กันนะคะ คลิกเลยค่ะ >> เลือกโต๊ะให้ลูกนั่งอย่างมีสุขภาพดี

เคล็ดลับการเลี้ยงดูเด็กวัย 6-12 ปี

รสชาติอร่อย ดื่มง่าย น้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก ไม่มีการแตกร้าวปลอดภัยสำหรับเด็ก พกติดตัวไปดื่มได้ในทุกโอกาส และ ทุกสถานที่ เช่น โรงเรียน , บนเครื่องบิน, สแน็คบ๊อกซ์ เป็นต้น เป็นราคาที่เด็กๆซื้อดื่มได้ทุกวัน C-vitt Mini ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาสะดวก ช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินซีเพียงพอในแต่ล่ะวัน เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี และมีร่างกายที่แข็งแรง ด้วยประโยชน์จากวิตามินซี 200% คุณภาพญี่ปุ่น C-vitt  ทางเลือกใหม่ของการดื่มวิตามินซีในรูปแบบน้ำ เพื่อให้ร่างกายดูดซึมได้ดีขึ้น…

3 ที่ควรปลอดเทคโนโลยี

ปัจจุบันเด็ก ๆ เข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายมาก ทำให้พ่อแม่ควบคุมระยะเวลาและความถี่ในการใช้ได้ยาก แล้วเราจะทำอย่างไรให้สามารถจำกัดเวลาใช้ของลูกได้ องค์กรไม่แสวงหากำไรที่ทำงานด้านสื่ออย่าง common sense media เสนอแนะว่า สถานที่ 3 แห่งนี้ควรปลอดเทคโนโลยีค่ะ 1.โต๊ะอาหาร ก่อนจะรับประทานอาหาร ทุกคนทั้งพ่อแม่และเด็ก ๆ ควรหยุดใช้โทรศัพท์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ปิดหรือเก็บให้เรียบร้อย บนโต๊ะอาหารเราจะพูดคุยกัน ใช้เวลาร่วมกัน แทนการหมกมุ่นอยู่กับหน้าจอ 2.ห้องนอน งานวิจัยหลายชิ้นพบว่า การนอนที่ดีต่อสุขภาพควรจะอยู่ในสภาวะที่ปลอดแสง สี เสียง การให้เด็ก ๆ นอนหลับสนิทจะส่งผลให้สมองปลอดโปร่ง พร้อมสำหรับการเรียนรู้ในวันรุ่งขึ้น ฉะนั้นก่อนนอนก็ควรงดดูแท็บเล็ตหรือโทรศัพท์มือถือ หันมาอ่านนิทานก่อนนอนกับลูกดีกว่าค่ะ 3.รถยนต์ การใช้โทรศัพท์ในรถสำหรับพ่อแม่ที่เป็นคนขับอาจทำให้เกิดอันตรายได้ ส่สวนลูกก็ควรได้ใช้เวลาในรถไปกับการพูดคุยกับพ่อแม่…