Warning: Undefined array key "action" in /var/www/wp-content/themes/kicker-child/functions.php on line 2
Knowledge | motherandcare - Part 27
Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

Knowledge

แม่ท้องเตรียมตัวอย่างไรเมื่อต้องบิน ?

แม่ท้องอาจต้องเดินทางไปต่างประเทศ ช่วงเวลาที่เหมาะคือ ไตรมาสที่ 2 คุณแม่ไม่แพ้ท้องแล้วและโอกาสเสี่ยงน้อยกว่าไตรมาสแรกและไตรมาสสุดท้าย ควรเตรียมตัวดังนี้ค่ะ 1.ตรวจสุขภาพก่อนไป ปรึกษาคุณหมอสักนิด และพกยาที่ใช้ประจำรวมทั้งยาจำเป็นต่าง ๆ ไปด้วย 2.เตรียมใบรับรองแพทย์ไปด้วยหรือบอกทางสายการบินว่าตั้งครรภ์ เพื่อทางสายการบินจะได้เลือกที่นั่งที่สบายสำหรับคนท้องให้ 3.ลุกขึ้นเดินบ้างและควรเลือกที่นั่งที่สามารถยืดตัวได้มาก ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ คุณแม่อาจเตรียมอาหารส่วนตัวไปด้วย เผื่อกินอาหารบนเครื่องไม่ได้ 4.การเดินทางไกลข้ามทวีป ควรใช้เวลาพักผ่อนหลังการเดินทาง 2-3 วัน เพื่อให้หายเหนื่อยและหายเครียดจากการเดินทาง และให้ร่างกายได้ปรับตัวกับสถานที่และเวลาที่แตกต่าง 5.ติดตามข่าวโรคระบาดก่อนเดินทางเพื่อหลีกเลี่ยง

Read more

แม่ท้องเลี้ยงสัตว์ได้หรือเปล่า ?

คุณแม่หลายท่านอาจมีสัตว์เลี้ยงไว้เป็นเพื่อนคลายเหงาก่อนตั้งครรภ์อยู่แล้ว เมื่อตั้งครรภ์สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือสุขอนามัยและความปลอดภัย คุณแม่ควรทราบหากมีสัตว์เลี้ยงในบ้าน 1.ควรเช็คและดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง พาไปรับวัคซีน ป้องกันการนำโรคต่าง ๆ หลายชนิดมาสู่แม่ท้องและลูก บางโรคอันตรายถึงชีวิต 2.ควรแยกสัตว์ให้อยู่เป็นสัดส่วนอย่างเหมาะสม อาจมีที่กั้นคอกสุนัข กรง หรือพื้นที่ของสัตว์เลี้ยง และอยู่ในพื้นที่โล่งมีอากาศถ่ายเท 3.หากเลี้ยงสุนัขหรือแมวขนยาว ควรพาสุนัขหรือแมวไปตัดขนให้สั้น 4.ทำความสะอาดบ้านอยู่เสมอ เพื่อป้องกันเชื้อโรคจากสัตว์เลี้ยง 5.หมั่นอาบน้ำทำความสะอาดสัตว์เลี้ยงเสมอ 6.ป้องกันสัตว์เลี้ยงไม่ให้มีการรับเชื้อโรคโดยไม่ให้ไล่จับหนู ไม่ให้กินอาหารที่เป็นเนื้อสด และระมัดระวังไม่ให้สัตว์เลี้ยงไปคลุกคลีกับสัตว์นอกบ้าน เพราะอาจติดเชื้อโรคมา 7.การเลี้ยงปลาหรือเต่าในอ่างน้ำหรือโหลแก้ว ต้องหมั่นทำความสะอาดและเปลี่ยนน้ำบ่อยๆ 8.นกหรือสัตว์ปีก อาจนำเชื้อโรค มาสู่คุณแม่ได้ ต้องดูแลและใส่ใจเรื่องของความสะอาดเป็นพิเศษ 9.เมื่อสัมผัสหรือโดนน้ำลายของสัตว์เลี้ยง ต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง 10.แยกห้องนอนกับสัตว์เลี้ยง และไม่คลุกคลีกับสัตว์เลี้ยงมากนักในขณะที่ตั้งท้อง

Read more

กินผลไม้อะไรดีช่วงตั้งท้อง ?

การกินผลไม้ทุกวันในระหว่างตั้งท้อง เส้นใยหรือไฟเบอร์ในผลไม้นอกจากจะช่วยลดอาการท้องผูกแล้ว ในผลไม้ยังอุดมด้วยวิตามินและเกลือแร่ที่ดีต่อร่างกายคุณแม่และลูกน้อยด้วย ผลไม้แก้ท้องผูก ผลไม้หลายชนิดช่วยในการขับถ่าย เช่น มะละกอ มะขาม ส้ม แอปเปิ้ล ฝรั่ง กล้วยน้ำว้า ลูกพรุน องุ่น เป็นต้น แต่ไม่ควรกินผลไม้ที่ช่วยขับถ่ายง่าย อย่างลูกพรุน มะขาม หรือ มะละกอ มากเกินไป เพราะจะทำให้ถ่ายมาก มดลูกมีการบีบตัวอาจกระตุ้นให้คลอดก่อนกำหนด สารอาหารมีคุณค่า วิตามินซี จะช่วยในการสร้างกระดูกและฟันของลูก ช่วยเผาผลาญอาหารและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง กรดโฟลิก พบในผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม ซึ่งกรดโฟลิกเป็นสารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต การเจริญพันธุ์และป้องกันความผิดปกติของเลือด วิตามินเอ เช่น สารเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารจำเป็นที่ใช้ในการเจริญเติบโตของเซลล์ร่างกาย ความสมบูรณ์ของเซลล์ผิวหนัง กระดูกและตา พบได้ในผักและผลไม้สีเหลือง เช่น แคนตาลูป มะม่วง มะละกอ ฟักทอง เป็นต้น นอกจากนี้ ในผลไม้ยังมีสารอาหารประเภทอื่นๆ เช่น แคลเซียมที่พบได้ในฝรั่ง…

Read more

8 เคล็ดลับช่วยแม่ท้องหลับสบาย

แม่ท้องโดยเฉพาะช่วงไตรมาสสุดท้ายมักจะมีปัญหาอึดอัดนอนไม่สบายตัว เนื่องจากท้องใหญ่ขึ้นทำให้หายใจไม่สะดวก มีข้อแนะนำมาฝากช่วยให้คุณแม่หลับสบายขึ้นค่ะ 1.ควรนอนตะแคงซ้าย เพื่อให้เลือดไปเลี้ยงลูกในท้องและอวัยวะภายในได้มากขึ้น ไม่ควรนอนหงายเป็นระยะเวลานาน 2.ควบคุมน้ำหนักตัวให้เหมาะสม ป้องกันอาการปวดท้อง อย่ากินอาหารแต่ละมื้อมากเกินไป ลดเผ็ดและเปรี้ยว หากแน่นท้องเวลานอนหนุนหัวให้สูง ดื่มน้ำมาก ๆ ในเวลากลางวัน ไม่ดื่มน้ำใกล้เวลานอน 3.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ระบบไหลเวียนเลือดดีและลดการเป็นตะคริวที่เท้า 4.แม่ท้องนอนกรนบางรายอาจจะต้องใช้หมอนสำหรับคนท้อง 5.หากมีอาการของโรคภูมิแพ้ ให้รีบพบแพทย์เพื่อรักษา ป้องกันไม่ให้เนื้อเยื่อภายในจมูกบวม 6.หาเวลางีบหลับในช่วงกลางวัน 7.หลีกเลี่ยงการใช้ยา เช่น ยานอนหลับ ยากล่อมประสาท 8.ปรึกษาแพทย์หากมีอาการนอนกรน

Read more

ทำยังไงดี เส้นเลือดขอดแผลงฤทธิ์ยามท้อง ?

สาเหตุของเส้นเลือดขอดในแม่ท้องเกิดจากผนังของหลอดเลือดดำใต้ชั้นผิวหนังโป่งพอง เพราะเลือดส่วนปลายขาที่ไม่สามารถไหลเวียนกลับเข้าสู่การสูบฉีดของหัวใจได้เร็วตามปกติคั่งค้างอยู่ในหลอดเลือด ปกติหลอดเลือดดำจะมีลิ้นปิดเปิด เพื่อกักเลือดไม่ให้ไหลย้อนลงข้างล่างตามแรงโน้มถ่วง เมื่อลิ้นนี้อ่อนแอเลือดจะย้อนมารวมกันที่เส้นเลือดด้านล่าง ทำให้เกิดอาการบวม และอาจมีอาการปวดเท้า เท้าบวม มักปวดมากขึ้นเมื่อยืนหรือนั่งนาน ๆ อาจเป็นตะคริวในตอนกลางคืน ถ้าเป็นมากอาจมีการอักเสบและเส้นเลือดแตกป้องกันได้ 1.ระหว่างนั่งเก้าอี้ ยกขาซ้ายให้ขนานกับพื้นแล้วกระดกข้อเท้าขึ้นลงติดต่อกัน 20 ครั้งเสร็จแล้วยกขาขวาบริหารบ้าง หรือบริหารด้วยการยืนเขย่งปลายเท้าขึ้นลง 2.งอและเหยียดกล้ามเนื้อส่วนขาดยนอนหงายงอเข่าจรดอก หรือใช้ท่านอนตะแคงงอเข่าดึงส้นเท้าชิดสะโพก หรือนั่งเหยียดขาตรงกระดกข้อเท้าขึ้นและก้มตัวแตะปลายเท้า เป็นต้น 3.หลีกเลี่ยงการยืนหรือเดินนาน ๆ นั่งยกขาสูงและพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ควรรับประทานอาหารเค็มจัด 4.เมื่อไปฝากครรภ์ควรให้คุณหมอตรวจดูทุกครั้งว่ามีอาการบวมที่ขาและเท้าหรือไม่

Read more

4 วิธีลดอาการปวดขาจากเส้นเลือดขอด

เมื่อแม่ท้องมีปัญหาเส้นเลือดขอด อาจมีอาการปวดขาเกิดขึ้นได้ มีข้อแนะนำในการลดอาการปวดขามาฝากแม่ ๆ ค่ะ  1.ประคบร้อน เพื่อให้หลอดเลือดขยายตัว ร่วมกับยกขาขึ้นสูง เพื่อช่วยให้เลือดเทกลับลงสู่ระบบหลอดเลือดดำใหญ่ที่ต้นขาได้ง่ายขึ้น  2.บีบนวดกล้ามเนื้อน่องเพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว จากการใช้งานมาตลอดวัน 3.ใช้ผ้ายืดที่ลักษณะเหมือนถุงเท้ารัดที่ขาท่อนล่าง เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นมากขึ้น แต่อย่ารัดให้แน่นจนเกินไป ควรเป็นผ้ายืดจากผ้าฝ้าย เพราะใยสังเคราะห์จะทำให้อับชื้นได้ และหลีกเลี่ยงการสวมผ้ายืดรัดขาที่สูงเกินเข่าเพราะขัดขวางการไหลเวียนของเส้นเลือดดำ ทำให้อาการมากขึ้น  4.คุณแม่ที่ต้องทำงานยืนหรือเดินตลอดวัน อาจมีอาการปวดเมื่อยที่ขาได้ง่าย ยิ่งถ้ามีอาการบวมหรือเส้นเลือดขอดด้วยแล้ว จะทำให้มีอาการมากขึ้น การใส่ถุงน่องจะช่วยพยุงขาและทำให้คุณแม่รู้สึกดีขึ้นได้ค่ะ

Read more

ปวดหลัง ! อาการสุดฮิตของแม่ท้อง

แม่ท้องบ่นกันเป็นประจำว่าปวดหลัง อาการปวดหลังยามตั้งครรภ์เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุค่ะ ตั้งแต่น้ำหนักเพิ่มมากขึ้น ท้องใหญ่ขึ้นหลังแบกรับน้ำหนักเพิ่ม ฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลงเส้นเอ็นและข้อต่อหลวมเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการคลอด ความเครียด ฯลฯ แต่ปัญหานี้แก้ไขได้ค่ะ  1.นวดหลัง ให้คุณพ่อช่วยนวดหลังคุณแม่จะได้ผ่อนคลายสบายกล้ามเนื้อ หรือใช้ไม้นวดยาว ๆ ที่มีลูกกลม ๆ ติดอยู่ตรงปลายสองลูก หาซื้อได้ง่าย ใช้ถูหลังลดอาการปวดหลังได้ค่ะ 2.บริหารร่างกาย ท่าที่ 1 ยืนก้มตัวโค้งไปข้างหน้า มือไขว้หลังจับประสานกันไว้ ก้มตัวช้า ๆ ค่อยๆ ยกแขนที่มือประสานกันเหยียดไปด้านหลังให้ตึงสุดสุด ท่าที่ 2 บิดเอว โดยนอนราบ ชันเข่าขึ้นฝ่าเท้าวาราบ แล้วเอนเข่าทั้งสองข้างไปทางซ้ายช้า ๆ พร้อมกับหันศีรษะไปทางขวา เกร็งไว้ แล้วทำสลับข้าง 3.ใช้ท่วงท่าให้ถูกต้อง  อย่าก้มหลังบ่อย ไม่ว่าจะเก็บกวาดบ้าน ถูบ้าน เก็บของบนพื้น อย่าโน้มตัวลง ควรนั่งก่อนแล้วค่อยเก็บของ ไม่ยกของหนัก เวลายกนั่งใกล้ของที่จะยก แล้วออกแรงยกของโดยใช้กำลังที่ขา เหยียดยืนขึ้น 4.งดรองเท้าส้นสูง เปลี่ยนมาใส่รองเท้าแบนไม่มีส้น เลือกพื้นรองเท้านุ่มหนาพอจะแบกรับน้ำหนักท้องที่เพิ่มขึ้นได้ด้วย เท่านี้ก็ช่วยให้อาการปวดหลังก็ลดลงได้แล้วค่ะ 

Read more

Horokid หนังสือสร้างเองของขวัญมอบลูกรัก

คุณพ่อคุณแม่เคยนึกมั้ยคะว่า จะเตรียมอะไรมอบเป็นของขวัญให้ลูกแรกเกิดและยังสร้างความประทับใจให้กับเขาไปจนถึงตอนโต   ขอแนะนำ Horokid  หนังสือคำทำนายที่คุณพ่อคุณแม่สร้างเพื่อลูกโดยเฉพาะ เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำให้กับเด็ก ๆ ค่ะ เนื้อหาในหนังสือเกี่ยวกับอะไรนะ ?ภายในหนังสือจะบอกเล่าถึงลักษณะนิสัยของเด็กตามช่วงเวลาเกิดของเด็กแต่ละคน บอกปีนักษัตร ราศีเกิด โดยคุณพ่อคุณแม่เป็นคนสร้างเนื้อหาจากการใส่ข้อมูล วัน เดือน ปีเกิด กรุ๊ปเลือด ของลูก แล้วคุณพ่อคุณแม่ยังเขียนคำอวยพรจากใจสู่ลูกได้ด้วยนะคะ  ถ้าอยากสร้างให้ลูกรักซักเล่มนึงต้องทำยังไงบ้าง ?ง่ายมาก ๆ ค่ะ เข้าไปในเว็บไซต์ Horokid  เข้าไปกรอกข้อมูล ใส่ชื่อลูก วันเดือนปีเกิดของลูก พิมพ์คำอวยพรหรือข้อความซึ้ง ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่อยากจะบอกลูก  ไม่เกิน 10 วันก็จะได้รับหนังสือส่งมาทางไปรษณีย์ค่ะ  เท่านี้คุณพ่อคุณแม่ก็จะได้ของขวัญชิ้นพิเศษสุดที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลกมอบให้ลูกรักแล้วค่ะ

Read more

5 Tips เลือกรถเข็นเด็กโดนใจ

คุณแม่มือใหม่มีหลายสิ่งหลายอย่างต้องเรียนรู้ แม้กระทั่งของที่ต้องเตรียมซื้อให้ลูกอย่างรถเข็นเด็กก็ไม่ใช่เรื่องง่าย  เพราะในท้องตลาดมีรถเข็นเด็กหลายแบบหลายชนิด รูปร่างหน้าตาแตกต่างกันไปเพื่อจะให้โดนใจคุณแม่ที่มีความชอบแตกต่างกัน   ทีนี้คุณแม่ก็ต้องมาคำนึงถึงอะไรบ้าง  เลือกคุณภาพระดับไหน น้ำหนักเบาดีมั้ย  ขนาดใหญ่หรือเล็กดีล่ะ แล้วยังมีแบบที่นั่งเดียวหรือหลายที่นั่งอีก  มีลูกคนเดียวแต่ข้าวของเยอะรถเข็นขนาดใหญ่ก็อาจเป็นตัวเลือกที่ใช่  ไหนยังประโยชน์ใช้สอยต่าง ๆ  ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ก็ยังมาเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจเลือกได้ มือใหม่น่าจะมึนกับตัวเลือกอันล้นหลามเหล่านี้ เรามีข้อแนะนำดี ๆ เป็นตัวช่วยให้คุณแม่ตัดสินใจค่ะ  1.ตั้งงบประมาณ รถเข็นเด็กมีราคาตั้งแต่ประมาณหลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ลองดูงบประมาณค่ะว่าถ้าจะซื้อรถเข็นให้ลูกสักคันคิดว่าจะจ่ายในราคาไม่เกินเท่าไหร่ แล้วค่อยมองหารถเข็นที่ใกล้เคียงกับงบประมาณในใจของคุณแม่จะได้ตีกรอบเป้าหมายในการเลือก 2.ดูคุณภาพ  คุณภาพกับราคามักจะไปด้วยกันค่ะ คุณแม่ต้องถามตัวเองว่าต้องการคุณภาพระดับไหน ความทนทาน ความประณีต วัสดุที่ใช้ ความสะดวกในการใช้งาน  อาจจะถามจากคุณแม่ผู้มีประสบการณ์ค่ะ 3.จะใช้ประโยชน์อย่างไรบ้าง เหตุผลในการเลือกรถเข็นที่เหมาะสมของแต่ละคนแตกต่างกันค่ะ คุณแม่ดูว่าต้องการประโยชน์ใช้สอยอย่างไร เช่น คุณแม่นักชอปฯ อาจมองหารถเข็นขนาดใหญ่มีที่วางของใต้รถ มีที่แขวน หรือมีช่องใส่ของใช้ของลูกหยิบสะดวก  มีไลฟ์สไตล์ออกนอกบ้านบ่อย พาลูกเดินเล่นในสวนสาธารณะเป็นประจำ หรือจะมีลูกอีกคนภายใน 1 ถึง 3 ปีมั้ยจะได้เน้นที่ความทนทาน ถ้าเดินทางต่างประเทศบ่อยก็อาจเลือกแบบน้ำหนักเบา ถ้าขับรถคันเล็กที่เก็บของน้อยก็อาจพิจารณารถเข็นเด็กที่มีขนาดเล็กค่ะ 4.ดูความปลอดภัย ตัวรถมีความมั่นคงแข็งแรง น้ำหนักไม่เบาเกินไปเพื่อจะได้ไม่ล้มคว่ำง่าย หรือไม่หนักมาก เมื่อถึงเวลาลงเนินคุณแม่มีแรงจับรถเข็นไว้ได้ ตัวล้อไม่ลื่นจนเกินไป ไม่มีส่วนใดเป็นอันตรายต่อลูก เช่น มีส่วนที่แข็งหรือแหลมคม มีช่องที่มือหรือเท้าจะเข้าไปติดได้  สายรัดตัวเด็กแน่นหนาแต่ไม่ทำให้อึดอัดปลดล็อคง่าย…

Read more

5 เคล็ดลับปกป้องผิวลูกน้อยจากผื่นผ้าอ้อม

ผิวเบบี๋ทั้งอ่อนบางและมีโอกาสแพ้ง่าย คุณแม่จึงต้องทะนุถนอมผิวของลูกน้อยในวัยนี้เป็นพิเศษโดยเฉพาะเบบี๋ในช่วงแรกเกิดปัญหาผิวที่มักกวนใจเป็นประจำก็คือผื่นผ้าอ้อมค่ะ เเมื่อมีผื่นผ้าอ้อมลูกน้อยอาจร้องโยเยเนื่องจากไม่สบายเนื้อสบายตัวสร้างความกังวลใจให้คุณแม่ปัญหานี้แก้ไข้ได้ไม่ยากค่ะเรามาทำความรู้จักกับสาเหตุกันก่อนสักนิด  สาเหตุที่พบได้บ่อย 1.เกิดจากความเปียกชื้น ทั้งจากความชื้นเกิดจากการใส่ผ้าอ้อมในขณะที่ตัวยังไม่แห้งสนิท  2.การแช่อยู่ในผ้าอ้อมที่เปียกฉี่หรืออึนานเกินไป  3.การติดเชื้อแบคทีเรียหรือยีสต์อาจทำให้เกิดผื่นผ้าอ้อมได้ ทารกที่รับประทานยาปฏิชีวนะมักจะไวต่อการเกิดผื่นผ้าอ้อมจากเชื้อยีสต์  แนะนำ 5  วิธีปกป้องผิวอันบอบบางของลูกจากผื่นผ้าอ้อม  1.หมั่นดูผ้าอ้อมลูกบ่อย ๆ ดูว่าเปียกชื้น ลูกอึฉี่หรือยัง อย่าปล่อยให้นอนแช่ผ้าอ้อมเปื้อนอยู่นาน ๆ ให้รีบเปลี่ยน 2.ล้างทำความสะอาดผิวลูกบริเวณที่อยู่ในผ้าอ้อมไม่จำเป็นต้องใช้สบู่ทุกครั้งอาจใช้น้ำเปล่าบ้าง หรือใช้สบู่เด็กที่อ่อนโยนต่อผิวเด็ก ปราศจากน้ำหอมหรือสารเคมีที่ก่อให้เกิดความระคายเคือง อาจเลือกผลิตภัณฑ์ประเภทออแกนิกเพื่อความปลอดภัยต่อลูกกน้อย   3.ใช้ผ้าสะอาดนุ่ม ๆ เช็ดผิวลูกอย่างอ่อนโยน เลี่ยงการใช้ทิชชู่เปียกที่ผสมน้ำหอมหรือแอลกอฮอล์เพื่อป้องกันการระคายเคือง 4.ปล่อยให้บริเวณผ้าอ้อมแห้งสนิทก่อนใส่ผ้าอ้อม 5.ทาปิโตรเลียมเจลลี่ หรือครีมป้องกันผื่นผ้าอ้อมก่อนให้ลูกใส่ผ้าอ้อม   หากผื่นยังไม่หายไปภายใน 2-3 วัน หรือเป็นผื่นแดงมากขึ้นควรพาไปพบคุณหมอเพราะอาจติดเชื้อแบคทีเรียหรือยีสต์ค่ะ

Read more