Warning: Undefined array key "action" in /var/www/wp-content/themes/kicker-child/functions.php on line 2
คุณแม่มือใหม่ | motherandcare - Part 5
Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

คุณแม่มือใหม่

5 เคล็ดลับการใช้เวลาคุณภาพกับลูกวัยแรกเกิด

การดูแลลูกแรกเกิดมีเรื่องให้ทำหลายอย่างจนคุณแม่ยุ่งไปทั้งวันทั้งคืน จากเคยนอนยาว 8 ชั่วโมงรวดอาจต้องตื่นมาทุก 2 ชั่วโมงเพื่อให้นมลูก ถ้าไม่มีผู้ช่วยคุณแม่ต้องดูแลจัดการทุกเรื่องเกี่ยวกับลูกอยู่คนเดียว ทั้งให้นม อาบน้ำ ป้อนข้าว ล้างขวดนม ซักผ้า ตากผ้า เตรียมอาหาร ฯลฯ พอวิ่งไปทำอย่างนึงลูกร้องก็ต้องวิ่งกลับมาดูแล ตื่นขึ้นมาไม่เห็นแม่คุณลูกยิ่งร้องบ่อย หัวหมุนเลยใช่มั้ยคะ  ขอแนะนำวิธีลดความยุ่งยากให้คุณแม่มือใหม่มีเวลาดูแลลูกอย่างใกล้ชิดเวลาเขาตื่นเพิ่มขึ้นค่ะ  1.ย้ายออฟฟิศมานั่งทำงาน อย่างงานเอกสาร คิดบัญชีรายรับรายจ่าย ใกล้ ๆ ลูก 2.ทำงานบ้านบางอย่างใกล้กับลูก อาจจะนั่งพับผ้า เตรียมอาหารที่ไม่มีกลิ่นแรง เช่น หั่นผักหรือปอกเปลือกผักผลไม้ในห้องเดียวกับลูก แทนที่จะเข้าไปทำครัวเป็นเวลานาน ๆ 3.จัดวางของใช้ไว้เป็นเซ็ทเก็บให้อยู่ใกล้ ๆ กัน จะหยิบใช้อะไรไม่ต้องเดินไปมาหลายที่ เช่น เซ็ทเสื้อผ้าและอุปกรณ์อาบน้ำลูก เช็ทอาหารลูกอย่างขวดนมหรือจานชามลูก 4.ถ้าทำอาหารเองอาจเตรียมหั่นวัตถุดิบที่หั่นเก็บไว้ได้อย่างเนื้อสัตว์แยกใส่กล่องเข้าช่องแข็งในตู้เย็นไว้ หรือทำน้ำซุปใส่กล่องแยกเก็บไว้สำหรับใช้ในแต่ละครั้ง 5.จดรายการฝากคุณพ่อไปชอปปิง หรือฝากจ่ายค่าบัตรเครดิต ค่าน้ำ ค่าไฟ ฯลฯ ไม่ต้องไปเอง แบบไหนเรียกว่าเวลาคุณภาพ ถ้าอยู่ใกล้…

Read more

ลูกฉลาดด้วยอ้อมกอดแม่

คุณแม่ทราบไหมคะว่าตั้งแต่แรกคลอดสมองของลูกน้อยก็พร้อมรู้ทุกสิ่งรอบตัวเขาแล้วค่ะ อย่างที่คุณแม่เคยได้ยินบ่อย ๆ ค่ะว่าการเลี้ยงดูลูกให้เติบโตมาเป็นเด็กฉลาดเริ่มได้ตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ แรกคลอดก็แช่นกัน ให้ลูกเรียนรู้อย่างเหมาะสมตามวัย เติมประสบการณ์ดี ๆ ให้กับลูก ซึ่งการเรียนรู้ของเด็กจะพัฒนาไปได้ไม่ดีถ้าขาดความรักความอบอุ่นจากคุณแม่ค่ะ อ้อมกอดอันอบอุ่น สัมผัสรักระหว่างคุณแม่กับลูกส่งผลต่อความเฉลียวฉลาดของลูกได้อย่างไร เส้นใยประสาทภายในสมองของลูกจะมีการแตกแขนงเป็นจำนวนมาก การส่งผ่านข้อมูลความรู้ทำได้รวดเร็วขึ้น การเรียนรู้จึงง่ายขึ้นค่ะ คำพูดการโอบกอดสัมผัสด้วยความรักความอ่อนโยน ลูกรับรู้ได้นะคะ พอเขารับรู้สิ่งนี้เขาจะรู้มั่นคงปลอดภัยและมีความสุข เมื่อมีความสุขสมองก็สามารถเรียนรู้ได้ดี ในอ้อมกอดคุณแม่นี้แหละที่จะทำให้ลูกวัยทารกเติบโตเป็นเด็กฉลาดค่ะ

Read more

7 ข้อควรทำ เยี่ยมทารกแรกคลอด

การเยี่ยมคุณแม่คนใหม่และทารกแรกเกิด ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องง่าย ก่อนไปเยี่ยมควรทราบสักนิดว่าต้องใส่ใจในเรื่องใดบ้าง นอกจากเป็นมารยาทอันดีงามแล้วควรป้องกันการนำเชื้อโรคไปสู่ทารกด้วยค่ะ 1.ดูความพร้อมคุณแม่ แม่หลังคลอดมักจะอ่อนเพลีย และยุ่งอยู่กับการเลี้ยงเบบี๋ คุณแม่บางคนจนตาเป็นแพนด้า ก่อนไปเยี่ยมควร ส่ง Message หรือโทรถามแม่ก่อนหรือว่าพร้อมให้ไปเยี่ยมหรือเปล่า นัดวันและเวลา เพราะแม่อาจกำลังให้นมลูก หรืองีบหลับอยู่ โอกาสพักผ่อนมีน้อยพยายามอย่ากวนแม่ ถ้าแม่บ่นว่าอยากเม้าใจจะขาด อย่ารอช้ารีบไปให้กำลังใจแม่ค่ะ 2.อย่านำเชื้อโรคไปฝาก เชื้อโรคธรรมดา ๆ อาจเป็นอันตรายต่อทารกและคลอดเพราะภูมิต้านทานยังไม่แข็งแรง ถ้าป่วยให้หายก่อนค่อยไปเยี่ยม ไม่ป่วย แต่คนรอบข้างป่วย อย่าเพิ่งไปเยี่ยม เลี่ยงการพาเด็กไปเยี่ยมทารกช่วงแรกคลอด เมื่อไปถึงขอล้างมือฟอกสบู่ก่อน 3.ห้ามหอมทารก การหอมหรือจูบทารก อาจเกิดอันตรายได้ เชื้อโรคธรรมดาที่เกิดกับผู้ใหญ่หรือเด็กทั่วไปเป็นแล้วหายง่ายไม่รุนแรง แต่เมื่อทารกรับเชื้อโรคอาจก่อให้เกิดการติดเชื้อรุนแรง ทารกมีอาการป่วยหนักหรือแม้กระทั่งเสียชีวิตได้ มีรายงานข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นระยะจากหลายประเทศทั่วโลกรวมทั้งบ้านเราด้วย 4.อย่าทำให้แม่เครียด คุณแม่บางคนมีอาการซึมเศร้าหลังคลอด บางคำพูดกอาจทำให้แม่จิตตก ละเอียดอ่อนซักนิดค่ะ ถามถึงสุขภาพแม่ลูกพอสมควร ชวนคุยเรื่องดี ๆ เลี่ยงหัวข้อชวนเครียด เช่น รูปร่างแม่…

Read more

หลังคลอด แม่ควรตรวจอะไรบ้าง ?

ช่วงหลังคลอด เชื่อว่า แม่ ๆ คงมุ่งความสนใจไปที่ลูก จนลืมว่าคุณเองก็มีเรื่องที่ต้องดูแลใส่ใจเช่นกัน อย่าลืมตรวจสุขภาพและดูแลตัวเองด้วยนะคะ 1.ตรวจเต้านม เพื่อดูว่ามีความผิดปกติหรือไม่ ตรวจมะเร็งเต้านมหรือก้อนน้ำเหลือง โดยวิธีการคลำที่หน้าอก คุณแม่อาจคลำด้วยตัวเองจากที่บ้านก่อนได้ หากพบก้อนเล็กๆ ที่เต้านม มีลักษณะแข็งหรือปวด อาจขอคำแนะนำจากคุณหมอได้ 2.ตรวจหน้าท้อง เพื่อดูความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหน้าท้อง ซึ่งหลังคลอด 1 เดือนคุณสามารถบริหารหน้าท้องเพิ่มความแข็งแรง และกล้ามเนื้อหน้าท้องได้ หากไม่ได้ออกกำลังกายหลังคลอดจะทำให้หน้าท้องยังหย่อนและป่อง ส่วนคุณแม่ที่ผ่าคลอด ก็ต้องตรวจแผลผ่าตัดว่าหายดีหรือยังด้วย 3.ตรวจมดลูก ช่วงตั้งครรภ์มดลูกขยายตัวขึ้นมาก ต้องตรวจมดลูกว่าหดตัวหรือที่เรียกว่าเข้าอู่แล้วหรือยัง และอยู่ในตำแหน่งเดิมภายในอุ้งเชิงกราน ช่วง 4-6 สัปดาห์หลังคลอดหรือยัง ถ้าอยากให้มดลูกเข้าอู่เร็ว ก็อย่าพลาดการให้ลูกดูดนมแม่นะคะ ดูแลสุขภาพตัวเองก็สำคัญเช่นกันค่ะคุณแม่

Read more

พักผ่อนหลังคลอดเป็นไปได้แค่ไหน ?

ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังคลอด คุณแม่ควรพักผ่อนอย่างไรบ้าง อย่างน้อยควรนอนพักผ่อนช่วงกลางคืนให้ได้ 6-8 ชั่วโมง ไม่ควรหยิบจับหรือยกสิ่งของหนัก เพราะเป็นช่วงที่กล้ามเนื้อและมดลูกกลับคืนสู่สภาพปกติ หากคุณแม่ยกของหนัก อาจกระทบกระเทือนถึงอวัยวะภายในอุ้งเชิงกรานมดลูกได้ เคล็ดลับเพิ่มเวลาพัก 1.ช่วง 2 สัปดาห์แรกให้คุณพ่อหรือคนในครอบครัวช่วยดูแลลูกตอนกลางคืนแม่ได้นอนพักเต็ม ๆ ก็จะฟื้นตัวเร็วขึ้น 2.หลังอาหารกลางวันอาจหาเวลาพักผ่อนให้ได้ประมาณ 30 นาที 3.เมื่อลูกหลับคุณแม่หลับด้วย แม้บางครั้งจะเป็นช่วงสั้น ๆ แต่ก็ช่วยให้แม่สดชื่นได้ 4.อย่ากังวลถึงงานการคั่งค้างมากเกินไป เลือกทำเฉพาะที่จำเป็นก่อน ขอให้แม่ ๆ ทุกท่านฟื้นตัวเร็ว ๆ นะคะ

Read more

ออกกำลังกายหลังคลอดจำเป็นจริงหรือ ?

การออกกำลังกายมีประโยชน์อย่างยิ่ง คุณแม่อย่าผัดวันกระกันพรุ่งนะคะ คุณแม่คนใหม่ควรเน้นการออกกำลังกายเบา ๆ ช่วงแรก อาจเป็นการเดินหรือทำงานบ้านที่ไม่ต้องใช้แรงมากนัก เพื่อช่วยในการฟื้นฟูกล้ามเนื้อและอวัยวะภายในให้กลับสู่สภาพปกติได้เร็ว การบริหารยืดเหยียดร่างกาย การเดิน โยคะ หรือออกกำลังกายในแบบที่ชอบแต่ไม่ใช่แบบที่หนักหน่วงเกินไป หากทำเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วขึ้น คุณแม่คลอดเองสามารถเริ่มออกกำลังกายเบา ๆ ได้ตั้งแต่ 2-3 วันหลังคลอด ส่วนคุณแม่ที่ผ่าคลอดควรเริ่มต้นออกกำลังหลังคลอดไปประมาณ 20 วันแล้วหรือตามคำแนะนำของคุณหมอ หากปล่อยทิ้งไว้นานหลายเดือนกว่าจะเริ่มออกกำลังกาย แม่ ๆ มักจะลดน้ำหนักยากค่ะ การออกกำลังกายนอกจากจะช่วยให้น้ำหนักลด รูปร่างของแม่กลับคืนมา และยังป้องกันช่องคลอดหย่อนกระบังลมเคลื่อนอีกด้วย

Read more

ดูแลแผลหลังคลอดอย่างไรไม่ติดเชื้อ ?

การดูแลแผลหลังคลอดทั้งแผลคลอดเองและผ่าคลอด คุณแม่ควรใส่ใจเรื่องความสะอาดค่ะเพื่อป้องกันการติดเชื้อ   แผลคลอดธรรมชาติ จะมีอาการปวดแผล 3-4 วัน หรืออย่างมาก 1 สัปดาห์ และจะค่อย ๆ ทุเลาลง มักหายเองภายใน1 สัปดาห์หลังคลอด หากปวดมากสามารถกินยาแก้ปวดลดได้ แต่ถ้าปวดแผลฝีเย็บมาก มีอาการบวมแดง กดแล้วเจ็บอาจเป็นเพราะฝีเย็บอักเสบควรรีบพบคุณหมอทันที ต้องหมั่นดูแลความสะอาดไม่ให้เกิดการติดเชื้อ การทำความสะอาดโดยทั่วไปคือ ทำความสะอาดแผลทุกวัน วันละ 1-2 ครั้งด้วยสบู่หรือใช้น้ำยาฆ่าเชื้ออย่างอ่อนล้างกับน้ำสะอาดจากด้านหน้าไปด้านหลัง เพราะการล้างจากก้นมาด้านหน้า จะนำเชื้อโรคจากทวารหนักมาสู่แผลและช่องคลอด แผลผ่าคลอด ตรวจดูแผลว่า มีการปริแตกไหม ซึ่งคุณหมอจะปิดพลาสเตอร์กันน้ำมาให้ เมื่อครบกำหนดที่คุณหมอนัดก็ควรไปตามนัดเพื่อให้ตรวจแผลว่าเรียบร้อยดีหรือไม่ คำแนะนำ ไม่ว่าคุณแม่จะคลอดด้วยวิธีธรรมชาติหรือผ่าคลอด การดูแลแผลหลังคลอดเป็นสิ่งสำคัญ เน้นเรื่องความสะอาด เพราะหากแผลติดเชื้อจากสิ่งสกปรกจะยิ่งทำให้แผลหายช้ามากขึ้น t

Read more

5 Tips เลือกรถเข็นเด็กโดนใจ

คุณแม่มือใหม่มีหลายสิ่งหลายอย่างต้องเรียนรู้ แม้กระทั่งของที่ต้องเตรียมซื้อให้ลูกอย่างรถเข็นเด็กก็ไม่ใช่เรื่องง่าย  เพราะในท้องตลาดมีรถเข็นเด็กหลายแบบหลายชนิด รูปร่างหน้าตาแตกต่างกันไปเพื่อจะให้โดนใจคุณแม่ที่มีความชอบแตกต่างกัน   ทีนี้คุณแม่ก็ต้องมาคำนึงถึงอะไรบ้าง  เลือกคุณภาพระดับไหน น้ำหนักเบาดีมั้ย  ขนาดใหญ่หรือเล็กดีล่ะ แล้วยังมีแบบที่นั่งเดียวหรือหลายที่นั่งอีก  มีลูกคนเดียวแต่ข้าวของเยอะรถเข็นขนาดใหญ่ก็อาจเป็นตัวเลือกที่ใช่  ไหนยังประโยชน์ใช้สอยต่าง ๆ  ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ก็ยังมาเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจเลือกได้ มือใหม่น่าจะมึนกับตัวเลือกอันล้นหลามเหล่านี้ เรามีข้อแนะนำดี ๆ เป็นตัวช่วยให้คุณแม่ตัดสินใจค่ะ  1.ตั้งงบประมาณ รถเข็นเด็กมีราคาตั้งแต่ประมาณหลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ลองดูงบประมาณค่ะว่าถ้าจะซื้อรถเข็นให้ลูกสักคันคิดว่าจะจ่ายในราคาไม่เกินเท่าไหร่ แล้วค่อยมองหารถเข็นที่ใกล้เคียงกับงบประมาณในใจของคุณแม่จะได้ตีกรอบเป้าหมายในการเลือก 2.ดูคุณภาพ  คุณภาพกับราคามักจะไปด้วยกันค่ะ คุณแม่ต้องถามตัวเองว่าต้องการคุณภาพระดับไหน ความทนทาน ความประณีต วัสดุที่ใช้ ความสะดวกในการใช้งาน  อาจจะถามจากคุณแม่ผู้มีประสบการณ์ค่ะ 3.จะใช้ประโยชน์อย่างไรบ้าง เหตุผลในการเลือกรถเข็นที่เหมาะสมของแต่ละคนแตกต่างกันค่ะ คุณแม่ดูว่าต้องการประโยชน์ใช้สอยอย่างไร เช่น คุณแม่นักชอปฯ อาจมองหารถเข็นขนาดใหญ่มีที่วางของใต้รถ มีที่แขวน หรือมีช่องใส่ของใช้ของลูกหยิบสะดวก  มีไลฟ์สไตล์ออกนอกบ้านบ่อย พาลูกเดินเล่นในสวนสาธารณะเป็นประจำ หรือจะมีลูกอีกคนภายใน 1 ถึง 3 ปีมั้ยจะได้เน้นที่ความทนทาน ถ้าเดินทางต่างประเทศบ่อยก็อาจเลือกแบบน้ำหนักเบา ถ้าขับรถคันเล็กที่เก็บของน้อยก็อาจพิจารณารถเข็นเด็กที่มีขนาดเล็กค่ะ 4.ดูความปลอดภัย ตัวรถมีความมั่นคงแข็งแรง น้ำหนักไม่เบาเกินไปเพื่อจะได้ไม่ล้มคว่ำง่าย หรือไม่หนักมาก เมื่อถึงเวลาลงเนินคุณแม่มีแรงจับรถเข็นไว้ได้ ตัวล้อไม่ลื่นจนเกินไป ไม่มีส่วนใดเป็นอันตรายต่อลูก เช่น มีส่วนที่แข็งหรือแหลมคม มีช่องที่มือหรือเท้าจะเข้าไปติดได้  สายรัดตัวเด็กแน่นหนาแต่ไม่ทำให้อึดอัดปลดล็อคง่าย…

Read more

5 ไอเดียของขวัญคุณแม่คนใหม่

จะหาอะไรให้เป็นของขวัญโดนใจคุณแม่คนใหม่ดีนะ แนะนำ 5 ไอเดียโดนใจค่ะ  1.น้ำหัวปลี เปลี่ยนจากเครื่องดื่มบำรุงกำลังมาซื้อของฝากเป็นน้ำหัวปลีบ้างก็ดีค่ะ เพราะคุณแม่จะได้ประโยชน์เต็ม ๆ  เพราะนอกจากจะไม่ต้องเตรียมหาเมนูหัวปลีเอง สามารถดื่มน้ำหัวปลีได้เลย ทั้งสะดวกและช่วยเพิ่มน้ำนมแม่ได้ดีทีเดียวค่ะ  *แนะนำ :  น้ำหัวปลีผสมอินทผลัม Mommy Juicy อร่อยดื่มง่าย https://www.facebook.com/mommyjuicy/ 2.คาร์ซีท เหมาะกับคุณแม่ที่ออกนอกบ้านบ่อยหรือขับรถเอง คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิดควรเลือกแบบที่หันหน้าไปทางด้านหลังของรถ เพื่อช่วยปกป้องกระดูกต้นคอในยามเกิดอุบัติเหตุค่ะ 3.กระเป๋าคุณแม่  จำเป็นต้องใช้แน่ค่ะ เพราะคุณแม่คนใหม่ต้องพกสัมภาระเบบี๋ติดตัวยามออกนอกบ้าน ถ้าไม่แน่ใจว่าคุณแม่ชอบแบบไหนเป็นพิเศษ เลือกแบบเรียบ ๆ สีกลาง ๆ ไว้ก่อนค่ะ 4.เสื้อให้นมลูก คุณแม่น่าจะชอบเพราะสะดวกเวลาให้นมลูกยามอยู่นอกบ้าน เช่นเดียวกันกับกระเป๋าค่ะเลือกสไตล์ที่คุณแม่ชอบถ้ารู้ใจกัน หรือแบบเรียบ ๆ สวมใส่ได้หลายโอกาส 5.ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ทั้งผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแม่ลูก เช่น สบู่อาบน้ำเด็ก รับรองได้ใช้แน่ เลือกที่เหมาะกับเบบี๋  ไม่มีกลิ่นฉุน ไม่ระคายเคืองผิว หรือเลือกผลิตภัณฑ์ประเภทออแกนิคก็ปลอดภัยสำหรับเด็กยิ่งขึ้นค่ะ  

Read more

4 เทคนิคกินแก้ปัญหานมแม่มาน้อย

คุณแม่ที่มีน้ำนมมาน้อยไม่ต้องกังวลมากเกินไปว่าจะไม่มีน้ำนมให้ลูกค่ะ มีหลายวิธีกินอาหารเพื่อช่วยเพิ่มน้ำนมแม่มาแนะนำกันค่ะ 1.กินให้พอในแต่ละวัน กินอาหารในปริมาณพอเพียงกับร่างกายต้องการในช่วงให้นมลูกไม่ทนหิว ไม่อดหรือลดอาหารเพระอยากผอมโดยเฉพาะ 6 เดือนแรก กินอาหารครบหมวดหมู่ 2.กินอาหารเพิ่มน้ำนมแม่ อาหารเพิ่มน้ำนมแม่มีหลากหลายชนิด และยังหาได้ง่ายค่ะ เช่น หัวปลี อินทผลัม ฟักทอง ใบกระเพรา น้ำเต้า กระเทียม มะละกอ งาดำ ฯลฯ สามารถเลือกปรุงเป็นเมนูที่ชอบได้ไม่ยาก 3.ดื่มน้ำหัวปลี เดี๋ยวนี้สะดวกสบายขึ้นค่ะ คุณแม่ให้นมลูกสามารถหาน้ำหัวปลีดื่มได้ ไม่ต้องเตรียมหาอาหารเพิ่มน้ำนมแม่อยู่ตลอดเวลา ประหยัดเวลาไปได้มากทีเดียวค่ะ บางยี่ห้อก็รสชาติอร่อยดื่มง่ายด้วยค่ะ *แนะนำ น้ำหัวปลีผสมอินทผลัม Mommy Juicy https://www.facebook.com/mommyjuicy/ 4.ดื่มน้ำให้พอเพียง การดื่มน้ำให้พอเพียงในแต่ละวัน จะช่วยให้คุณแม่มีน้ำนมพอสำหรับลูก ไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำในปริมาณที่มากเกินไป ประมาณ 6-8 แก้วก็พอเพียง สังเกตปัสสาวะ ถ้ามีสีเหลืองเข้มแสดงว่าคุณแม่ขาดน้ำ อย่าลืมดื่มน้ำเพิ่มกันนะคะ

Read more