ดนตรีไม่ได้ทรงพลังเพียงแค่เป็นเพื่อนคลายเหงาเท่านั้น
แต่ดนตรีมอบพลัง มอบชีวิต ปลุกจิตวิญญาณให้แก่คนทุกเพศทุกวัย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กออทิสติกนั้น พวกเขาอาจจะมีทักษะทางสังคมด้อยกว่าผู้อื่น แต่ภายในตัวเขาเองนั้นก็มีทักษะด้านอื่นๆ
ซ่อนอยู่ หากคุณพ่อคุณแม่ส่งเสริมถูกต้อง
พวกเขาก็สามารถสร้างสรรค์ผลงานรวมทั้งใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขเช่นเดียวกับคนอื่นๆ
ในรายการ American Got Talent ปีล่าสุด 2019
นี้ จะเห็นได้ว่า มีเด็กชายที่เป็นเด็กออทิสติกได้รับรางวัล Gold
Buzzer หรือรางวัลพิเศษจากคณะกรรมการให้สามารถผ่านเข้าสู่รอบการแสดงสดโดยไม่ต้องผ่านการคัดเลือกอีก
และสิ่งที่ทำให้เขาชนะใจกรรมการคือดนตรีอันแสนไพเราะจากปลายนิ้วที่พรมลงเปียโน
รู้หรือไม่ว่าเด็กออทิสติกมีทักษะทางดนตรีพิเศษกว่าคนปกติ
ย้อนหลังในช่วงกว่า
70 ปีที่ผ่านมา มีงานวิจัยอยู่มากมายที่แสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยในกลุ่มอาการออทิสติกเกือบครึ่งนั้นมี
Perfect
Pitch ซึ่งหมายถึงว่า มีความสามาถในการแยกเสียงดนตรี ตัวโน้ต
และจังหวะได้อย่างแม่นยำ และในขณะเดียวกันกิจกรรมเกี่ยวกับดนตรี เช่น การร้องเพลง
การเล่นเครื่องดนตรี
มีส่วนช่วยในการบำบัดเด็กออทิสติกให้มีทักษะการสื่อสารทางสังคมดีขึ้นด้วย
อีกทั้งยังช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตของครอบครัว และเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมโยงกันของสมองแต่ละส่วน
อย่างงานวิจัยชิ้นหนึ่ง
เด็กออทิสติกจะถูกแบ่งเป็นสองกลุ่มและได้รับการดูแลด้วยนักบำบัดคนเดียวกัน
แต่กลุ่มหนึ่งนักบำบัดจะมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กผ่านการร้องเพลงและเล่นดนตรี
ส่วนอีกกลุ่มใช้การบำบัดแบบไร้เสียงดนตรี
ซึ่งผลปรากฏว่ากลุ่มที่ใช้ดนตรีในการบำบัด เด็กๆ
มีทักษะการสื่อสารและคุณภาพชีวิตของครอบครัวที่ดีขึ้น
ไม่ใช่แค่ในต่างประเทศเท่านั้นที่นักวิจัยให้ความสนใจกับเรื่องนี้
ในประเทศไทยเราเองก็มีนักจิตวิทยาเด็กและวัยรุ่นและนักดนตรีบำบัดหลายคน
ที่นำดนตรีมาประยุกต์ใช้กับการเสริมสร้างพัฒนาการให้แก่เด็กพิเศษ
โดยสามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งในแง่ของการฝึกออกเสียงและช่วยเสริมสร้างทักษะการเข้าสังคม
ซึ่งหลังจากเข้ารับการบำบัดด้วยเสียงดนตรี
เด็กออทิสติกส่วนใหญ่จะมีอารมณ์คงที่มากขึ้น
และบางคนยังต่อยอดไปสู่การเล่นดนตรีเป็นงานอดิเรกหรือมุ่งมั่นฝึกฝนเพื่อเป็นนักดนตรี
ทำให้เกิดความภาคภูมิใจในตัวเองและมีดนตรีเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ
ทำให้พวกเขาใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุขยิ่งขึ้น
จะเห็นได้ว่า
พลังงานเสียงดนตรีนั้นยิ่งใหญ่กว่าที่เราคิด
ที่สำคัญคือความสามารถของเด็กออทิสติกเองที่ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าเด็กคนอื่นๆ
คุณพ่อคุณแม่เองควรช่วยส่งเสริม อาจจะเริ่มต้นจากเปิดเพลงให้เขาฟังก่อนเพื่อให้เขารู้สึกผ่อนคลาย
ชวนเขาร้องเพลงคาราโอเกะ ซื้อเครื่องดนตรีขนาดเล็กเบาๆ
ให้เขาได้สัมผัสและทำความรู้จัก หากมีโอกาสก็อาจพาเขาไปชมคอนเสิร์ต ละครเวที
ภาพยนตร์เพลง ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว ค้นหาความชอบไปพร้อมๆ
กับลูกรัก ใครจะไปรู้ว่าอนาคตข้างหน้า
ลูกน้อยของเราอาจจะไปยืนอยู่บนเวทีประกวดร้องเพลงบ้างก็ได้
การส่งเสริมพัฒนาการลูกน้อยทำได้หลายวิธี
และหนึ่งในตัวช่วยที่น่าสนใจก็คือ พิพิธภัณฑ์
เพราะผ่านการคิดค้นและสร้างสรรค์โดยผู้เชี่ยวชาญมาแล้วในการจัดกิจกรรมให้เหมาะสมกับช่วงวัย
พิพิธภัณฑ์ 5 แห่งต่อไปนี้
เหมาะแก่การพาลูกน้อยไปเปิดโลก ซึ่งนอกจากจะช่วยส่งเสริมทักษะการเรียนรู้
และเพิ่มพูนความคิดสร้างสรรค์ให้แก่เด็กๆ แล้ว
ยังเป็นการสร้างความทรงจำร่วมกันและพัฒนาความสัมพันธ์ภายในครอบครัวอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานครแห่งที่
1 (จตุจักร)
พื้นที่การเรียนรู้ เน้นการเล่นสนุกให้สอดคล้องกับพัฒนาการและศักยภาพของเด็กแต่ละวัย
ทุกกิจกรรมผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี
ให้เหมาะกับการบ่มเพาะความคิดสร้างสรรค์และส่งเสริมทักษะด้านต่างๆ
ภายใต้สภาพแวดล้อมและอุปกรณ์ที่ปลอดภัย แต่ละเดือนจะมีกิจกรรมพิเศษ เช่น ครัวไทยสำหรับวัยจิ๋ว
ละครโรงเล็ก คลาสศิลปะ คลาสวิทยาศาสตร์ คลาสนักประดิษฐ์ ส่วนใหญ่เหมาะกับเด็กอายุ 3-12 ปี
เปิดวันอังคาร-วันอาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์) 10.00 - 16.00 น. ไม่เสียค่าใช้จ่าย
www.cdm-bangkok.com
พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์
คลอง 5 ปทุมธานี
จุดเด่นของที่นี่คืออาคารทรงลูกเต๋าสวยงามแปลกตา
ส่วนพื้นที่ภายในแบ่งออกเป็น 6
ชั้น
โดยแต่ละชั้นจะมีกิจกรรมเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย
เรียกว่ามาสนุกร่วมกันได้ทั้งครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็กหรือเด็กโต
ทางพิพิธภัณฑ์มีมุมทดลองอิสระที่เปิดโอกาสให้เด็กๆ สามารถเรียนรู้ผ่านการเล่นได้อย่างเพลิดเพลิน
ลองมาสัมผัสด้วยตัวเองแล้วจะรู้ว่าวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องใกล้ตัวและสนุกกว่าที่คิด
เปิดวันอังคาร-วันอาทิตย์
(ปิดทุกวันจันทร์) 9.30 - 16.00 น.
ผู้ใหญ่
100 บาท
ผู้สูงอายุและเด็กเข้าชมฟรี (นักเรียนต้องแสดงบัตร)
วันเสาร์
- วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ปิด 17.00 น.
www.nsm.or.th/home-science-museum.html
อุทยานรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ
แหล่งเรียนรู้ด้านอวกาศในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
ที่นี่มีโชว์วิทยาศาสตร์เจ๋งๆ ให้ชมทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และมีไฮไลท์น่าสนใจมากมาย เช่น
สถานีอวกาศจำลอง…
ย่างเข้าฤดูฝนทีไร
คุณพ่อคุณแม่คงกังวลกับการดูแลสุขภาพลูกน้อย เพราะฤดูนี้อากาศจะเย็นลงและมีความชื้นสูง
ทำให้เชื้อไวรัสและแบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดีกว่าปกติ มีโรคติดต่อที่ต้องระวังหลายโรค
โดยเฉพาะโรคจากยุงเป็นพาหะ ไม่ว่าจะเป็น โรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิกา
และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย แทนที่จะเอาแต่กังวลใจ ลองทำตามคำแนะนำกับ 3 เก็บที่จะช่วยป้องกันโรคจากยุงร้ายได้
เก็บที่หนึ่ง เก็บบ้านให้สะอาด
ขจัดมุมอับทึบซึ่งยุงมักชอบเข้าไปแอบเกาะพัก โดยเฉพาะตามห้องนอนที่ไม่ค่อยเปิดม่านเพราะต้องการให้ห้องมืดเพื่อจะได้ไม่มีแสงสว่างรบกวน
ในเวลากลางวัน ควรเปิดม่านทิ้งไว้
และก่อนเข้านอนควรตรวจตราให้แน่ใจว่าว่าไม่มียุงร้ายแอบอยู่
เก็บที่สอง
เก็บขยะและเศษภาชนะ ไม่ใช่แค่แหล่งน้ำเท่านั้น
แต่ถังขยะที่มีเศษอาหารหรือขยะอยู่ด้วยก็อาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงได้เช่นกัน
ทุกคืนหลังรับประทานอาหารเสร็จ
ควรมัดปากถุงขยะแล้วนำไปทิ้งในถังขยะนอกบ้านหรือจุดที่จัดไว้ปิดฝาให้มิดชิด
เก็บที่สาม
เก็บน้ำ เก็บภาชนะทุกชนิดที่มีน้ำขัง เช่น ถังรองน้ำฝน ถังในห้องน้ำ
ต้องหาฝามาปิดให้มิดชิด ป้องกันไม่ให้ยุงลายวางไข่
ส่วนขารองตู้ให้เปลี่ยนมาใส่แป้งแทนน้ำ
ก็สามารถใช้กันมดได้ผลดีไม่แพ้กันและไม่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงด้วย
หากทำตามคำแนะนำนี้จะสามารถป้องกันโรคจากยุงตัวร้ายได้ถึง 3 โรคในคราวเดียว ในอีกทางหนึ่งอย่าลืมเตรียมอุปกรณ์ต่อสู้กับยุง เช่น สเปรย์ตะไคร้ ไม้ช็อตไฟฟ้า ยาทากันยุง ฯลฯ ติดบ้านไว้ด้วย ฤดูฝนนี้จะได้สุขภาพดีกันทั้งครอบครัว และถึงแม้จะป้องกันทุกวิธีแล้ว สำคัญที่สุดสำหรับคุณพ่อคุณแม่คือ อย่าลืมหมั่นสังเกตความผิดปกติของลูกน้อย ถ้าพบสัญญาณถึงความเจ็บป่วย เช่น ไข้สูง อาเจียน ไอบ่อย ควรรีบพาไปพบคุณหมอโดยเร็ว
ที่มา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
Q : ทำไมต้องวางแผนการเงินเพื่อการศึกษาลูก ?
A : เพราะค่าใช้จ่ายสำหรับการศึกษาลูกตั้งแต่แรกเข้าเรียนจนกระทั่งจบปริญญาตรีหรือปริญญาโทเป็นเงินมิใช่น้อย ค่าเล่าเรียนที่จะแพงขึ้นในอนาคต นอกจากค่าเล่าเรียนในโรงเรียนแล้วยังมีค่าเรียนพิเศษ เสริมทักษะ ฯลฯ คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องเตรียมไว้ให้พอส่งเสียให้ลูกตลอดรอดฝั่ง ลูกก็จะสามารถมีอนาคตสดใสได้เดินตามความฝันของตัวเอง
จำนวนเงินที่เก็บออมแนะนำให้คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ควรจะเก็บประมาณ 10-20 % ของรายได้ สมมติคุณพ่อคุณแม่รายได้รวมกันเดือนละ 70,000 บาท ควรเก็บเงินเพื่อลูกเดือนละ 7,000-14,000 บาท และที่สำคัญต้องเก็บก่อนหักค่าใช้จ่าย !
ซึ่งค่าใช้จ่ายในครอบครัวจะแบ่งออกเป็น ค่าใช้จ่ายคงที่ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ต้องจ่ายเป็นประจำมีจำนวนเงินแน่นอน เช่น ค่าเล่าเรียน ค่าขนม ค่ารถ ค่าน้ำมัน ค่าแม่บ้าน ค่าจ้างซักเสื้อผ้า บวกเผื่อค่าเจ็บป่วยด้วย และค่าใช้จ่ายผันแปร เช่น ค่าใช้จ่ายบัตรเครดิต ซื้อเสื้อผ้า หรือซื้อของประเภทที่ซื้อก็ได้ไม่ซื้อก็ได้ ถ้าแบ่งสัดส่วนตามนี้ย่างมีระเบียบวินัยก็จะใช้ชีวิตได้อย่างสบาย
เรียบเรียงจาก : สัมภาษณ์ คุณโจ้-ปฐมภัสร์ รชตะอนันต์ชัย ที่ปรึกษาด้านการเงินและผู้แนะนำการลงทุนด้านหลักทรัพย์ พิธีกร : แม่แอร์ Thelovelyair.com
Facebook : Mother&Care Live…
เวลาคุณแม่จะเลือกทำประกันกับบริษัทไหน ถ้าเห็นแพกเกจของแต่ละบริษัทก็จะพบว่าแต่ละแห่งก็มีข้อดีคล้าย ๆ กัน ความคุ้มครองอาจจะต่างกันนิดหน่อย
สมมุติว่าคุณแม่ซื้อประกันไว้ 3 บริษัทพอเราเข้าไปเคลมบริษัทที่ 1 ทางโรงพยาบาลจะให้ใบเสร็จรับเงินมาใบเดียว ไม่สามารถขอใหม่ครับ ใบเสร็จสำคัญ ถ้าหายแจ้งความไปประกันก็ไม่สามารถเบิกสินไหมออกมาให้ได้ ใบเสร็จมีค่ามาก พอนำไปยื่นบริษัทที่ 1 ควรแจ้งเขาว่าขอเอกสารคืน เพื่อจะไปเบิกกับอีกบริษัทประกันนึง
ถ้าเราไม่มีใบเสร็จก็เบิกค่ารักษาพยาบาลไม่ได้ ส่วนที่เบิกได้จะเป็นแค่ค่าชดเชยโดยเบิกจากการใช้ใบรับรองแพทย์ เพราะฉะนั้นถ้าคุณแม่ทำประกันสุขภาพไว้กับหลายบริษัท อย่าลืมขอใบเสร็จรับเงินกันนะครับ
เรียบเรียงจาก : สัมภาษณ์ คุณโจ้-ปฐมภัสร์ รชตะอนันต์ชัย ที่ปรึกษาด้านการเงินและผู้แนะนำการลงทุนด้านหลักทรัพย์
พิธีกร : แม่แอร์ Thelovelyair.com Facebook : Mother&Care Live : ทำไมต้องวางแผนการเงินเพื่อลูก ?
Q : คนมีเงินมากต้องวางแผนการเงินหรือเปล่า ?
A : มีเงินมากก็ต้องบริหารจัดการเรื่องเงินและวางแผนการเงิน สำหรับคนที่มีรายได้สูง ๆ ก็จะมีเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายมรดกมาเกี่ยวข้อง
เคยเห็นที่ดินในบริเวณทำเลทองที่รกร้างไหมครับ เช่น ไปอยู่ตรงย่านสุขุมวิทหรือสีลม ใคร ๆ เห็นก็พูดกันว่าที่ตรงนี้ดีมาก ทำไมไม่ทำเป็นตึกสักทีร้างมาหลายปี
นั่นก็เพราะกฎหมายมรดกกำหนดไว้ว่าถ้ามรดกมีมูลค่าเกิน 100 ล้านบาท จะต้องเสียภาษีขั้นต่ำ 5 % ก็คือ 5 ล้านบาท สมมุติลูกได้มรดกมาก็ไม่สามารถขายที่ก่อนแล้วค่อยเอาเงินไปจ่ายภาษีได้ ต้องเอาเงินสดจ่ายภาษีก่อน ถึงจะขายที่เอาเงินเข้ากระเป๋าได้
ถ้าไม่ได้แบ่งสรรปันส่วนมรดกไว้ให้เรียบร้อย เสียชีวิตไปก็ต้องมาตั้งผู้จัดการมรดก กว่าจะตั้งได้ต้องขึ้นศาลให้ศาลสั่ง 3 เดือนขั้นต่ำ กว่าจะได้จัดการมรดกอีกราว ๆ 6 เดือนกว่าจะแบ่ง คนที่มีสินทรัพย์มากมักจะมีในรูปของหุ้นค่อนข้างมากเช่นกัน ก็ต้องดูแลจัดการตรงนี้เพื่อลูก จะได้ไม่ต้องใช้เวลานานกว่าจะได้รับมรดกของพ่อแม่และเตรียมเงินสดไว้เพื่อจ่ายภาษีมรดก
สรุปว่ามีเงินมากก็ต้องวางแผนการเงินเช่นกันครับ
เรียบเรียงจาก : สัมภาษณ์ คุณโจ้-ปฐมภัสร์ รชตะอนันต์ชัย ที่ปรึกษาด้านการเงินและผู้แนะนำการลงทุนด้านหลักทรัพย์
พิธีกร : แม่แอร์ Thelovelyair.com
Facebook : Mother&Care Live…
Q : ได้ยินคำว่าอัตราเงินเฟ้อบ่อย ๆ เกี่ยวข้องกับแม่ ๆ ยังไงบ้าง ?
A : ความจริงแล้วอัตราเงินเฟ้อเป็นเรื่องเกี่ยวกับเราทุกคน ยกตัวอย่าง เช่น เราเคยซื้อกาแฟร้านทั่วไป 1 แก้วเมื่อประมาณ 10 ปีก่อนแก้วละ 15-20 บาท ตอนนี้ประมาณ 35 บาท อย่างนี้เรียกว่าเงินเฟ้อ อัตราเงินเฟ้อโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 4 กว่าเปอร์เซ็นต์ สมมุติเราเอาเงินไปเก็บไว้ในออมทรัพย์แล้วได้ดอกเบี้ยประมาณ 0.2 เปอร์เซ็นต์ สรุปว่าเงินเราโตขึ้นหรือเงินเราเล็กลง เงินเราเท่าเดิมครับแต่เราซื้อกาแฟได้ไม่ถึงแก้ว
กฎของเงินเฟ้อคือปริมาณเงินของเราเท่าเดิมแต่ซื้อของได้น้อยลง !
อัตราเงินเฟ้อมีผลกับคุณแม่ตรงนี้ครับ สมมติว่าคุณแม่จะตั้งเป้าเก็บเงินไว้ให้ลูกเรียนจบปริญญา ถ้าตอนนี้ลูกยังไม่ได้เข้าโรงเรียน เรามาคำณวนดูคร่าว ๆ ว่าต้องมีเงินเก็บเงินเท่าไหร่เพื่อค่าการศึกษาลูก
เข้าเรียนอนุบาล 3 ปี ประถม 6 ปี มัธยม 6 ปี ปริญญาตรี 4 ปี ปริญญาโท 2 ปี รวม…
เวลาคุณแม่ยุ่งมาก ๆ มักจะลืมโน่นลืมนี่ใช่มั้ยคะ หรือเหน็ดเหนื่อยอ่อนเพลียนอนน้อยสมองล้า ใครถามถึงสิ่งที่รู้แน่ ๆ แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก อย่างนี้ต้องอาศัยเทคนิคช่วยจำกันหน่อยแล้ว
1.ตั้งใจจำ โฟกัสเฉพาะสิ่งที่ต้องการจะรู้ ตั้งใจเพื่อจำเรื่องนั้นโดยเฉพาะ เช่น อยากจำชื่อคนนี้ให้ได้ พอเขาบอกชื่อมาก็ให้จดจ่อกับชื่อนั้นมากกว่าจะไปทำอย่างอื่น เช่น ขอนามบัตร ขอเบอร์ นึกทบทวนชื่อเขาบ่อย ๆ หรือถ้าอยากอ่านหนังสือให้จำแม่น ให้ใช้นิ้วชี้ไล่ไปตามตัวอักษรทีละประโยค ทีละบรรทัด สมองก็จะจดจำได้ดีกว่า
2.จัดระเบียบความจำ จัดระเบียบสมองให้จดจำข้อมูลเป็นระบบ โดยเขียนแบบแผนที่ Mind Map เริ่มจากตรงกลาง แล้วแตกแขนงออกไปในแต่ละสาขา จากนั้นให้แตกกิ่งก้านออกไปเรื่อยๆ ตามแนวความคิดในทิศทางเดียวกัน ตอนเขียนก็ให้ใช้สีคนละสีนะคะ จะได้ช่วยจัดระเบียบความจำของสมองได้ดี
3.มโนให้เว่อร์ สิ่งที่ทำให้จดจำได้ดีมักจะมีจุดเด่น ใช้จินตนาการเข้ามามีส่วนร่วม อาจจะด้วยการจินตนาการให้เป็นภาพ ความแปลกประหลาด เหนือความคาดหมาย และมีเรื่องของอารมณ์มาเกี่ยวข้อง เช่น ชอบลืมว่าวางโทรศัพท์มือถือไว้ห้องไหนในบ้าน ก่อนวางลองนึกภาพว่ากำลังมอบโทรศัพท์ขนาดใหญ่เกินจริง ฝากตุ๊กตาหมีสีชมพูสดเอาไปวางบนโซฟา จะช่วยให้จำได้ดีกว่าท่อง
4.เชื่อมโยง เคยไหมที่พอเห็นหน้าแล้วจำได้แต่จำชื่อไม่ได้…
เตรียมอาหารให้ลูกเองก็ต้องสะอาดปลอดภัย เรามีวิธีล้างผักและผลไม้เพื่อลดสารเคมีมาฝากแม่ ๆ ค่ะ
วิธีที่ 1
แช่ผักไว้ในน้ำนาน 15 นาที จากนั้นยกผักขึ้นจากกะละมังแล้วนำไปรองใต้ก๊อก เปิดน้ำก๊อกให้ไหลผ่าน คลี่ใบผักให้โดนน้ำทั่วถึง ใช้มือถูผักผลไม้ และใช้เวลาล้างนานประมาณ 2 นาที
วิธีที่ 2
แช่ในน้ำผสมน้ำส้มสายชู 5% ในอัตราส่วน น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 4 ลิตร แช่ทิ้งไว้นานประมาณ 15 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง
วิธีที่ 3
ใช้เบกกิ้งโซดา ครึ่งช้อนโต๊ะผสมกับน้ำ 10 ลิตร แช่ผักทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที นาทีจากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด
การล้างผักทั้ง 3 วิธีนี้สามารถช่วยคุณแม่ลดสารเคมีตกค้างและยังช่วยล้างดิน และล้างเชื้อโรคที่ปนเปื้อนอยู่ออกไปจากผักได้ค่ะ
ข้อมูลอ้างอิง กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
ขอแนะนำสวนสนุกแห่งใหม่ FUNfesta ชั้น 5 Gateway at bangsue คุณพ่อคุณแม่พาลูก ๆ ไปสนุกสนานกันค่ะ ที่นี่เป็นศูรย์รวมความสนุกของเด็ก ๆ ตกแต่งได้น่ารักทันสมัย เน้นความสดใสแปลกใหม่ เด็ก ๆ ต้องติดใจเครื่องเล่นสนุกเสริมทักษะทั้ง 5 โซน ได้แก่ Sport Zone, Action Zone, Music Zone , Carnival Zone และ Kiddy Rides
เดินทางไม่ยากค่ะ อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสถานีเตาปูนมีรถรับจากสถานีรถไฟฟ้าเตาปูนมายังห้างฯ เกตเวย์ แอท บางซื่อ ถนนประชาราษฎร์สาย 2