Share This Article
ความเชื่อผิดๆ ของคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ ตั้งแต่ห้ามบริโภคคาเฟอีน ไปจนถึงการห้ามออกกำลังกาย มาหาคำตอบจาก 10 ความเชื่อผิดๆ ที่พบบ่อยๆ ว่า ความจริงแล้วเป็นอย่างไร
1.ทานเผื่อ 2 คน
ผู้ที่ตั้งครรภ์ทานมากกว่าปกติจริง แต่ก็ไม่ได้ทานจนน้ำหนักเกิน เพราะคุณแม่สามารถทานมื้อค่ำรอบที่ 2 ได้ ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วหญิงตั้งครรภ์ต้องการพลังงานเพิ่มขึ้น 300 แคลอรี่ต่อวัน สำหรับเด็กในท้อง โดยขณะตั้งครรภ์จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 11.3 ถึง 13.6 กิโลกรัม จากผลการวิจัย
2.งดทานชีส
คุณแม่ไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการทานชีส โดยชีสบางชนิดอย่าง เชดด้าชีส และสวิสชีส สามารถทานได้ เนื่องจากผ่านการพาสเจอร์ไรส์แล้ว ซึ่งชีสที่ไม่ได้ผ่านการพาสเจอร์ไรส์ อาจเป็นพาหะของโรคอาหารเป็นพิษ
3.บอกลาอาหารทะเล
อาหารทะเลมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์อย่างมากต่อคุณแม่ตั้งครรภ์ อย่างเนื้อปลาที่มีโปรตีนและโอเมก้า 3 ซึ่งมีประโยชน์กับทารกในครรภ์อย่างมาก แต่ไม่ได้มีกับเนื้อปลาทุกชนิด โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ FDA ได้ระบุว่า แม่ควรทานอาหารทะเล 2 ถึง 3 จานต่อสัปดาห์ เช่น แซลมอน และกุ้ง แต่ควรงดทานอาหารทะเลที่มีกำมะถันสูง และปลาดิบ ที่อาจมีเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษกาแฟ
4.คาเฟอีนต่ำเท่านั้น
คาเฟอีนซึมเข้าสู่รกได้ เมื่อคุณแม่ดื่มลาเต้ ทั้งแม่และลูกก็จะได้รับสารคาเฟอีน แต่หากเป็นชาหรือกาแฟวันละแก้วเล็กๆ ก็สามารถดื่มได้ โดยวิทยาลัยสูตินรีแพทย์อเมริกัน หรือ ACOG มีผลวิจัยที่ระบุว่า คาเฟอีน 200 มิลลิกรัมต่อวัน ยังคงมีความปลอดภัย โดยขึ้นอยู่กับชนิดของชาและกาแฟที่มีปริมาณคาเฟอีนผสมอยู่
5.งดเข้ายิม
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนบอกว่า การออกกำลังกายที่ไม่กระทบกระเทือนและออกแรงมากเกินไป คุณแม่ตั้งครรภ์ก็สามารถทำได้ โดยวิทยาลัยสูตินรีแพทย์อเมริกัน แนะนำว่าหญิงตั้งครรภ์ควรออกกำลังกายหรือมีกิจกรรมที่ออกแรงบ้าง เฉลี่ย 150 นาทีต่อสัปดาห์ โดยเป็นการออกกำลังกายมีอัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้นและมีเหงื่อซึมเล็กน้อย โดยหลีกเลี่ยงกีฬาที่มีการปะทะหรือแบกสิ่งของบนหลัง โดยควรปรึกษาแพทย์หากไม่แน่ใจ
6.ดื่มหน่อยก็ไม่เป็นไร
อาจเลือกไม่ถูก ระหว่างถ้าต้องเลือกระหว่างจิบแชมเปญ 2-3 อึก หรืองดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปเลย แต่ผลการศึกษาจำนวนมากระบุว่าการดื่มแอลกอฮอล์ขณะตั้งครรภ์ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดความผิดปกติในครรภ์ โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ หรือ CDC และ วิทยาลัยสูตินรีแพทย์อเมริกัน หรือ ACOG ระบุตรงกันว่า หญิงตั้งครรภ์จำเป็นต้องงดแอลกอฮอล์ เพื่อลดความเสี่ยงทารกพิการแต่กำเนิด
7.ทาน 3 มื้อต่อวัน
จริงๆ แล้ว คุณแม่ตั้งครรภ์ควรทาน 6 ถึง 7 มื้อต่อวัน โดยเป็นมื้อที่มีสารอาหารครบถ้วนตลอดทั้งวัน (ทุกๆ 2 ถึง 3 ชั่วโมง) การทานบ่อยและมีสารอาหารครบถ้วนจะทำให้ปริมาณน้ำตาลในเลือดคงที่ และจะทำให้คุณแม่และทารกในครรภ์มีสุขภาพดี
8.ใช้ยาไม่ได้หลายชนิดช่วงตั้งครรภ์
เภสัชกรตามร้านขายยาสามารถแนะนำยาหลายชนิดที่ปลอดภัยต่อหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งคุณแม่ที่เป็นไมเกรนและหวัดอาจไม่สามารถใช้ยาบางชนิดได้ แต่เภสัชกรสามารถแนะนำยาอีกหลายชนิดที่สามารถใช้ได้ หากไม่แน่ใจควรปรึกษาแพทย์
9.ทำสีผมไม่ได้
คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ไม่ได้หมายความว่าจะดูแลตัวเองไม่ได้ เคยมีผลการศึกษาที่ระบุว่าสารเคมีบางชนิดในยาย้อมผมเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ แต่แพทย์ระบุว่า ควรหลีกเลี่ยงขณะตั้งครรภ์ช่วงแรกขณะทารกยังเป็นตัวอ่อน ขณะที่สูตินรีแพทย์จากมหาวิทยาลัยแบนเนอร์ เมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา ระบุว่า สามารถใช้ยาย้อมผมที่ผลิตจากธรรมชาติได้
10.ห้ามทำเล็บ
ไม่จำเป็นต้องงดทำเล็บหากกำลังจะเป็นแม่ ที่หลายคนยังกังวลสารเคมีในยาทาเล็บ ซึ่งแพทย์ระบุว่า ต้องมีปริมาณสารพิษสะสมจากยาทาเล็บเป็นจำนวนมากจึงจะส่งผลต่อทารกในครรภ์ โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสารพาทาเลต (Phthalate) โทลูอีน (Toluene) หรือ ฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) และที่สำคัญควรเลือกร้านเสริมสวยที่ทำความสะอาดเครื่องมืออย่างดี เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ที่มา : The Bump